นายอิสระ อรดีดลเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน สายงานวิจัย บล.ไทยพาณิชย์ (SCBS) คาดว่าดัชนีหุ้นไทยจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาส 3/61 หลังจากช่วงที่ผ่านมามีการขายทำกำไรออกมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ P/E ใน 12 เดือนข้างหน้าลดลงมาอยู่ที่ 14 เท่า จากเดิมที่ 16 เท่า ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่มีความเหมาะสมที่จะเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเพิ่มขึ้น ก่อนที่ดัชนีจะขึ้นไปที่เป้าหมาย 1,900 จุดในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่ได้ปัจจัยหนุนจากภาวะเศรษฐกิจประเทศที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง
"รอบบ้านเราที่ผ่านมาถึงแม้ว่าจะมีปัจจัยลบมากมายเข้ามา แต่เราลืมมองที่บ้านเราไปว่าตัวเลขของเศรษฐกิจไทยยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ได้มีปัจจัยไหนเลยที่แย่ลง ทำให้เราเชื่อว่าหากดัชนีจะปรับตัวลงคงมีได้ไม่มากแล้ว โดยมองว่าจุดต่ำสุดที่เกิดขึ้นได้คือ 1,570 จุด และในช่วงไตรมาส 3 โดยปกติแล้วด้วยสถิติจะมีการปรับตัวขึ้น ซึ่งเราก็เชื่อว่าเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน"นายอิสระ กล่าว
นายอิสระ กล่าวว่า ช่วงไตรมาส 1/61 เศรษฐกิจไทยสามารถเติบโตได้ 4.8% สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ 4% และคาดว่าทั้งปี 61 จะสามารถเติบโตได้ 4.25% โดยการเติบโตถือว่าขยายตัวได้ดี และกระจายตัวไปยังหลายธุรกิจ เช่นผลผลิตสินค้าทางการเกษตรเติบโตได้ 6.5% ในขณะที่ผลผลิตนอกกลุ่มสินค้าเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 4.7% โดยมีการเติบโตจากธุรกิจโรงแรมและภัตตาคารที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น 12.8% สอดคล้องกับธุรกิจท่องเที่ยวที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้การบริโภคภายในประเทศ รวมถึงการลงทุนภาครัฐและเอกชนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากแนวโน้มเช่นนี้ยังดำเนินต่อไปจะทำให้เศรษฐกิจยังคงขยายตัวได้ดี และต่อเนื่องไปในอนาคต
สำหรับความเสี่ยงที่ยังคงต้องจับตามองและส่งผลกระทบต่อตลาดในปัจจุบัน ได้แก่ สงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐ และการขึ้นภาษีเพื่อกีดกันทางการค้ากับพันธมิตร ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไป โดยเฉพาะในช่วงการเงินที่ตึงตัวขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเชื่อว่าสุดท้ายแล้วจะมีการเจรจาเพื่อหาข้อตกลงกันได้ เพียงแต่ช่วงนี้ข่าวสารต่าง ๆ จะยังส่งผลลบต่อตลาดอยู่
ทั้งนี้ ตลาดหุ้นไทยในช่วงไตรมาส 3/61 จะเห็นการรีบาวด์ได้ แม้ว่าในข่วงที่ผ่านมาดัชนีจะปรับตัวลดลงมาอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยหลักคือความกังวลต่อผลกระทบสงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีน และสหรัฐ แต่อย่างไรก็ตามพื้นฐานของประเทศไทยยังคงไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็นทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจไทย การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ และภาคเอกชนที่เริ่มกลับมาลงทุนมากขึ้น ขณะที่การบริโภคก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาด้วย
นายอิสระ แนะนำหุ้น Top Picks ประจำไตรมาส 3/61 เน้นหุ้นที่ราคายังขึ้นน้อยกว่าตลาดและมีปัจจัยสนับสนุนจากการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ และอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากเรื่องดังกล่าว ได้แก่ กลุ่มส่งออก และ กลุ่มธนาคาร โดยมองว่า BBL ได้รับประโยชน์มากที่สุดจากแรงส่งเศรษฐกิจ รายได้ค่าธรรมเนียมจะเติบโตโดดเด่น , KTB กลับมาขยายสินเชื่อเพิ่มพร้อมกับตั้งสำรองลดลง Valuation น่าสนใจที่ PBV 0.8 เท่า ได้ประโยชย์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่สูงขึ้น
HANA ราคาหุ้น และ Valuation ล้าหลังกว่าตลาด จะได้รับประโยชน์จากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ต้นทุนวัตถุดิบที่มีเสถียรภาพมากขึ้นและปัญหาคอขวดการผลิตที่คลี่คลายลงช่วยสนับสนุนผลการดำเนินงาน ส่วน CPF จะได้ประโยชน์จากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ธุรกิจมีแนวโน้มฟื้นตัวในไตรมาส 2/61 และกำไรจากการแปลงสภาพหุ้นกู้อนุพันธ์ จะช่วยกระตุ้นให้ราคาหุ้นปรับตัวขึ้น ขณะที่ TU ราคาหุ้นล้าหลัง แต่กำไรจะกลับมาเติบโตในช่วงไตรมาส 2/61 หลังจากต้นทุนวัตถุดิบลดลง