CIMBT เผยกำไร H1/61 ลดแม้รายได้โต จากตั้งสำรองฯ-ค่าใช้จ่ายเพิ่ม, NPL ที่ 5.8%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday July 19, 2018 11:39 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคาร ยังมิได้ผ่านการตรวจสอบ สำหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 6,795.3 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 412.2 ล้านบาท หรือ 6.5% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2560

สาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 5.2% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 10.0% และรายได้อื่น 12.6% กำไรจากการดำเนินงานก่อนหักหนี้สงสัยจะสูญลดลง 1.4% เป็นจำนวน 2,921.3 ล้านบาท เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน 13.3% กำไรสุทธิลดลงจำนวน 117.7 ล้านบาท หรือ 24.6% เป็นจำนวน 360.1 ล้านบาทเมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันสาเหตุหลักเกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานและสำรองหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้น 1.0%

เมื่อเปรียบเทียบผลการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2561 และ 2560 รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้น 258.4 ล้านบาท หรือ 5.2% เป็นผลจากการขยายตัวของสินเชื่อและการลดลงของค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 89.8 ล้านบาท หรือ 10.0% มาจากการเพิ่มขึ้นของค่าธรรมเนียมจากการจัดจำหน่ายหน่วยลงทุน ค่าธรรมเนียมจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันภัยและรายได้ธุรกรรมเช่าซื้อ รายได้อื่นเพิ่มขึ้นจำนวน 63.9 ล้านบาท หรือ 12.6% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากธุรกรรมบริหารเงินเนื่องจากปริมาณธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นในตลาดที่เอื้ออำนวย

ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสำหรับงวดหกเดือนปี 2561 เปรียบเทียบกับงวดเดียวกันปี 2560 เพิ่มขึ้นจำนวน 455.0 ล้านบาทหรือ 13.3% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานและขาดทุนจากการขายทรัพย์สินรอการขาย เป็นผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน ต่อรายได้จากการดำเนินงานงวดหกเดือนปี 2561 อยู่ที่ 57.0% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2560 อยู่ที่ 53.6% อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (Net Interest Margin – NIM) สำหรับงวดหกเดือนปี 2561 อยู่ที่ 3.87% เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปี 2560 อยู่ที่ 3.81% เป็นผลจากการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น วันที่ 30 มิถุนายน 2561 เงินให้สินเชื่อสุทธิจากรายได้รอตัดบัญชี (รวมเงินให้สินเชื่อซึ่งค้ำประกันโดยธนาคารอื่นและเงินให้สินเชื่อแก่สถาบันการเงิน) ของกลุ่มธนาคารอยู่ที่ 215.2 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.0% เมื่อเทียบกับ เงินให้สินเชื่อ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 กลุ่มธนาคารมีเงินฝาก (รวมตั๋วแลกเงิน หุ้นกู้ และผลิตภัณฑ์ทางการเงิน บางประเภท) จำนวน 224.5 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.0% จากสิ้นปี 2560 ซึ่งมีจำนวน 220.1 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อต่อเงินฝาก (the Modified Loan to Deposit Ratio) ของกลุ่มธนาคารลดลงเป็น 95.9% จาก 96.8% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560

สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ 12.6 พันล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้น (NPL ratio) อยู่ที่ 5.8% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 อยู่ที่ 4.8% เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นในสินเชื่อด้อยคุณภาพของลูกค้าพาณิชย์ธนกิจในงวดหกเดือนปี 2561 และการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 2560

อย่างไรก็ตาม ธนาคารซีไอเอ็มบีไทยยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 อยู่ที่ 90.1% ลดลงจากสิ้นปี 2560 ซึ่งอยู่ที่ 93.2% ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2561 เงินสำรองของกลุ่มธนาคาร อยู่ที่จำนวน 11.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 4.0 พันล้านบาท

เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 30 มิถุนายน 2561 มีจำนวน 43.9 พันล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 17.0% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 คิดเป็น 12.0%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ