ทริสฯ อันดับเครดิตหุ้นกู้ AP วงเงินไม่เกิน 2 พันลบ. ที่ระดับ "A-/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday July 20, 2018 15:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. เอพี (ไทยแลนด์) หรือ AP ที่ระดับ "A-" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 2,000 ล้านบาท ไถ่ถอนภายใน 4 ปี ของบริษัทที่ระดับ "A-" เช่นเดียวกัน โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ชุดใหม่ไปใช้ชำระหนี้และเพื่อขยายธุรกิจ

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจของบริษัทที่น่าพอใจจากการมีผลงานที่เป็นที่ยอมรับในธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย ตลอดจนการมีสินค้าที่หลากหลาย และมูลค่ายอดขายที่อยู่อาศัยที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ในระดับปานกลางซึ่งช่วยรองรับรายได้ในอนาคต อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะของธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นวงจรขึ้นลง ตลอดจนภาระหนี้ของบริษัทที่อยู่ในระดับปานกลาง และความกังวลเกี่ยวกับระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงทั่วประเทศ

ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 ดีกว่าประมาณการของทริสเรทติ้งเล็กน้อย ณ เดือนมิถุนายน 2561 บริษัทมียอดขายอยู่ที่ 13,216 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 55.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน นอกจากนี้ บริษัทยังมียอดขายอีกจำนวน 4,049 ล้านบาทจากโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้กิจการร่วมค้าอีกด้วย รายได้ของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 อยู่ที่ 5,612 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้จากโครงการบ้านจัดสรร เพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 58.0% ในขณะที่อัตราส่วนกำไร (อัตราส่วนกำไรจากการดำเนินงานก่อนค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่ายต่อรายได้) ของบริษัทในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 อยู่ที่ 17.3% ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับ 14.5%-16.5% ในช่วงปี 2558-2560

ณ เดือนมีนาคม 2561 มูลค่ายอดขายที่รอรับรู้เป็นรายได้ของบริษัทอยู่ที่ 7,508 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรมูลค่า 4,286 ล้านบาทและโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่า 3,222 ล้านบาท ซึ่งยอดขายทั้งหมดนี้จะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในปี 2561 และปี 2562 ส่วนยอดขายจากโครงการที่พัฒนาภายใต้กิจการร่วมค้านั้นมีมูลค่า 37,309 ล้านบาทซึ่งจะทยอยส่งมอบให้ลูกค้าในปี 2561 เป็นต้นไป ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในกิจการร่วมค้าประมาณ 600-1,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วงปี 2561-2563

อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุน (รวมเงินกู้จากกิจการร่วมค้าตามสัดส่วน 51.0%) ณ เดือนมีนาคม 2561 อยู่ที่ 53.3% เพิ่มขึ้นจาก 51.8% ณ สิ้นปี 2560 เนื่องจากบริษัทมีการเปิดขายโครงการคอนโดมิเนียมมูลค่าสูงหลายโครงการและยังได้ซื้อที่ดินเพื่อพัฒนาโครงการใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนของบริษัทจะอยู่ในช่วง 50.0%-55.0% ในระยะ 3 ปีข้างหน้า

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขันที่เข้มแข็งในกลุ่มสินค้าหลักและจะสามารถปรับปรุงสินค้าให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดและความต้องการของลูกค้าได้อย่างสมดุลด้วย นอกจากนี้ แนวโน้มอันดับเครดิตดังกล่าวยังสะท้อนถึงความคาดหวังของทริสเรทติ้งว่าบริษัทจะยังคงดำรงนโยบายทางการเงินที่ระมัดระวังต่อไปและจะสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนให้อยู่ในระดับไม่เกิน 55.0% ในช่วง 3 ปีข้างหน้าเอาไว้ได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตของบริษัทอาจมีการปรับลดลงหากสถานะทางการเงินของบริษัทอ่อนแอลงไปจากระดับปัจจุบันเป็นอย่างมาก หรืออัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนอยู่ในระดับที่สูงกว่า 55.0% เป็นเวลานานพอสมควร ในทางตรงกันข้าม อันดับเครดิตอาจมีการปรับเพิ่มขึ้นหากบริษัทสามารถเพิ่มอัตราการทำกำไรได้โดยที่อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อโครงสร้างเงินทุนลดลงอยู่ที่ระดับ 40.0%-45.0% เป็นระยะเวลาที่ยาวนานในระดับหนึ่ง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ