ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,675.75 จุด เพิ่มขึ้น 4.69 จุด (+0.28%) มูลค่าการซื้อขาย 49,264.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,681.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,665.92 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 655 หลักทรัพย์ ลดลง 625 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 445 หลักทรัพย์
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ถือว่าปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าที่คาดไว้ การเคลื่อนไหวคล้ายคลึงกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก ขณะที่ตลาดในยุโรปเทรดบ่ายนี้จะเป็น Negative ซึ่ง Emerging Market จะดูดีกว่า อาจเป็นเพราะเงินดอลลาร์สหรัฐฯได้เริ่มอ่อนค่าลง ทำให้เงินในภูมิภาคทรงตัว ถึงแข็งค่าขึ้นได้บ้าง ส่งผลให้ Fund Flow ชะลอการไหลออก และอาจจะมีการขายน้อยลง
ทั้งนี้ ตลาดบ้านเราคงจะได้รับอานิสงส์จากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์งวดไตรมาส 2/61 ที่ออกมาส่วนใหญ่อยู่เกณฑ์ที่ดี ทำให้มีแรงซื้อกลับหุ้นในกลุ่มแบงก์ขึ้นมานำตลาดฯในวันนี้ ขณะที่หุ้นอื่นที่ถูกขายก่อนหน้านี้ก็มีแรงซื้อกลับเข้ามาด้วย
อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามความคืบหน้าของสงครามการค้า และการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในกลุ่ม Real Sector ต่อไป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (24 ก.ค.) น.ส.ธีรดา กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะผันผวน แต่ก็มีโอกาสที่จะปรับขึ้นไปได้ต่อ และก็อาจเผชิญแรงขายทำกำไรในระหว่างทางได้ด้วย ดังนั้น เมื่อดัชนีฯขึ้นไปสูงก็ให้ระวังแรงเหวี่ยง
พร้อมให้แนวรับ 1,670-1,660 จุด ส่วนแนวต้าน 1,690-1,700 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,342.03 ล้านบาท ปิดที่ 51.00 บาท ลดลง 0.50 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,057.13 ล้านบาท ปิดที่ 8.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 1,896.40 ล้านบาท ปิดที่ 202.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
TMB มูลค่าการซื้อขาย 1,853.48 ล้านบาท ปิดที่ 2.18 บาท ลดลง 0.06 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,850.99 ล้านบาท ปิดที่ 213.00 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท