โบรกฯเชียร์"ซื้อ"หุ้น IVL เล็งกำไรสุทธิ Q2/61 ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังโพลีเอสเตอร์ฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday July 25, 2018 14:17 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โบรกเกอร์ ต่างเชียร์"ซื้อ"หุ้น บมจ.อินโดรามา เวนเจอร์ส (IVL) เล็งกำไรสุทธิไตรมาส 2/61 จะสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ราว 7,005-8,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 134-192% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 25-47% จากไตรมาสก่อน หลังอุสาหกรรมโพลีเอสเตอร์ฟื้นตัวขึ้น

ประกอบกับอุปทานที่ตึงตัวหลังโรงงาน PTA ในยุโรปและเกาหลีหยุดเดินเครื่องกระทัน ช่วยหนุนให้ส่วนต่าง (สเปรด) PTA เพิ่มขึ้น ขณะที่สเปรด PET ได้รับประโยชน์จากเข้าสู่ช่วง High season ของการใช้ขวดพลาสติก และการลดการใช้พลาสติกรีไซเคิลในจีน

IVL เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์มากสุดในขาขึ้นของอุตสาหกรรม PET และโพลีเอสเตอร์ คือได้ประโยชน์จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน นอกจากนี้ ได้ประโยชน์มากจากซัพพลายที่จำกัด จากการจัดระเบียบอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในประเทศจีน จึงคาดการณ์กำไรปี 61 ยังจะเติบโตดีอย่างมาก

ราคาหุ้น IVL ปิดเที่ยงวันนี้ที่ 60.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท (+0.84%) ขณะที่ SET +1.01%

          โบรกเกอร์                 คำแนะนำ         ราคาเป้าหมาย(บาท/หุ้น)
          หยวนต้า (ประเทศไทย)          ซื้อ                    84
          เอเอสแอล                    ซื้อ                    75
          กรุงศรี                       ซื้อ                    75
          ฟิลลิป (ประเทศไทย)            ซื้อ                    72
          เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย)   ซื้อ                    70
          เอเชีย เวลท์                  ซื้อ                    68

นายสุทธิชัย คุ้มวรชัย ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) คาดว่าผลการดำเนินงาน IVL งวดไตรมาส 2/61 จะออกมาดีขึ้น มีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/61 ประมาณ 8,570 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 192% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 47% จากไตรมาสก่อน ซึ่งมาจากกำไรจากการดำเนินงานที่ดีขึ้น และมาร์จิ้นก็ดีขึ้นด้วย เนื่องจากอุสาหกรรมโพลีเอสเตอร์ฟื้นตัวขึ้น

ทั้งนี้ มองว่าปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นในไตรมาส 2/61 ก็จะดีต่อเนื่องอีกในไตรมาส 3/61 ส่วนมาร์จิ้นจะแข็งแกร่งเด่นมากในไตรมาส 2/61 ขณะที่ไตรมาส 3/61 กำไรจากการดำเนินงานอาจจะทรง ๆ ตัว

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิปีนี้ไว้ที่ 20,700 ล้านบาท ทรงตัวจากปีที่แล้วที่มีกำไรสุทธิ 20,800 ล้านบาท เนื่องจากในปีที่แล้วมีรายการพิเศษอยู่มาก แต่หากมองที่การดำเนินงานจะเห็นได้ว่าปีนี้กำไรจากการดำเนินงานจะเติบโตดี

ด้าน บล.เอเชีย เวลท์ ระบุในบทวิเคราะห์ฯ มอง IVL เป็นหุ้นที่ได้รับประโยชน์มากสุดในขาขึ้นของอุตสาหกรรม PET และโพลีเอสเตอร์ คือได้ประโยชน์จากดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากจีน นอกจากนี้ ได้ประโยชน์มากจากซัพพลายที่จำกัด จากการจัดระเบียบอุตสาหกรรมเม็ดพลาสติกรีไซเคิลในประเทศจีน จึงคาดการณ์กำไรทั้งปี ยังเติบโตดีอย่างมาก

พร้อมคาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 2/61 ของ IVL เท่ากับ 7,005 ล้านบาท เป็นกำไรที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยกำไรเพิ่มขึ้น 134% จากงวดปีก่อน และเพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาสก่อน หลังสเปรดในไตรมาส 2/61 ของ PTA และ PET ดีขึ้น เมื่อเทียบกับงวดปีก่อน และไตรมาสก่อน จากการรายงานสเปรดปิโตรเคมีรายเดือนของ IVL พบว่าในเดือน มิ.ย.61 สเปรดของ Asia PTA และ Asia PET เพิ่มขึ้น ทำสถิติสูงสุดใหม่เป็น 189 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้น 22.7% จากเดือนก่อน และ 323 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน ลดลง 4.1% จากเดือนก่อนตามลำดับ ขณะที่สเปรดช่วงไตรมาส 2/61 นั้น Asia PTA ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 158 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้น 26.4% จากไตรมาสก่อน และ 326 เหรียญสหรัฐฯ/ตัน เพิ่มขึ้น 34.1% จากไตรมาสก่อน เป็นผลบวกต่อผลประกอบการของ IVL ในไตรมาส 2/61 ให้เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก

สาเหตุสเปรด PTA และ PET ดีมากเกิดจากดีมานด์ของโพลีเอสเตอร์ที่สูงขึ้น และจีนมีมาตรการห้ามนำเข้าขยะ ทำให้ปริมาณการผลิต PTA และ PET ใหม่เพิ่มขึ้น โดยไม่มีสินค้ารีไซเคิลเข้ามาแข่งขันตัดราคา ซัพพลายที่มีอยู่อย่างจำกัดจึงเกิดการขาดแคลนและลักษณะของอุตสาหกรรมมีความเป็นระเบียบขึ้น

ด้าน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า แนวโน้มกำไรไตรมาส 2/61 ของ IVL จะเร่งตัวขึ้นจากมาร์จิ้นทั้ง PET และ PTA ที่ปรับขึ้นทาจุดสูงสุดในรอบหลายปี เพราะการเข้าสู่ช่วง High season ของการใช้ขวดพลาสติก ,ผลกระทบจากมาตรการลดการใช้พลาสติกรีไซเคิลในจีน และอุปทานที่ตึงตัวหลังโรงงาน PTA ในยุโรปและเกาหลีใต้หยุดเดินเครื่องจักรกระทันหัน

ทั้งนี้ ชอบ IVL จากการเป็นผู้ประกอบการธุรกิจปิโตรเคมีสายโพลีเอสเตอร์แนวหน้าระดับโลก ด้วยฐานการผลิตที่ครอบคลุมทั้งต้นน้ำ และปลายน้ำ ใน 25 ประเทศ 4 ทวีปทั่วโลก กำลังการผลิตรวม 10.7 ล้านตัน/ปี ผลประกอบการเติบโตตลอด 5 ปีแม้อยู่ในอุตสาหกรรมขาลงก็ตาม จากกลยุทธ์ซื้อกิจการเพื่อขยายฐานกำลังการผลิตทำให้เกิด Economies of scales และ การสร้างมูลค่าเพิ่มหนุนมาร์จิ้นให้สูงขึ้นผ่านสินค้ากลุ่ม HVA ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนการผลิต 20% ของการผลิตรวม แต่สามารถสร้างกำไรให้กับ IVL ได้กว่า 50% ของกำไรปกติรวม IVL จึงถือเป็นบริษัทที่สามารถก้าวผ่านช่วงธุรกิจขาลงได้อย่างน่าประทับใจ และพร้อมเติบโตจากวัฎจักรขาขึ้นรอบใหม่


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ