TREIT ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์เป็น 5 หมื่นลบ.ภายในปี 65,เจรจาซื้อสินทรัพย์นอกกลุ่ม-พร้อมออกหาใน ตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 2, 2018 15:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทคอน แมนเนจเม้นท์ จำกัด (TMAN) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการางทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไทคอน (TREIT) เปิดเผยว่า TREIT ตั้งเป้าเพิ่มมูลค่าสินทรัพย์ในช่วง 5 ปี (ปี 61-65) เป็น 5 หมื่นล้านบาท พร้อมกับขึ้นเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมชั้นนำในอาเซียน ซึ่งกองทรัสต์แผนการผลักดันมูลค่าสินทรัพย์เพิ่มขึ้น 2-3 พันล้านบาท/ปี ซึ่งจะเข้าลงทุนในสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้า โรงงาน และดาต้าเซ็นเตอร์ ทั้งในและต่างประเทศ ที่อยู่ในกลุ่ม TICON และนอกกลุ่ม TICON จากปัจจุบันที่ TREIT มีมูลค่าสินทรัพย์อยู่ที่ 3.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกองทรัสต์อุตสาหกรรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ

สำหรับในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้บริษัทจะเข้าลงทุนสินทรัพย์ของ TICON เพิ่มเติม มูลค่ากว่า 3.6 พันล้านบาท ประกอบด้วย อาคารโรงงานและคลังสินค้า จำนวนทั้งสิ้น 58 ยูนิต ตั้งอยู่ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ของอุตสาหกรรมกว่า 11 ทำเล และมีอัตราเช่าเฉลี่ยอยู่ที 89.7% ประกอบกับลงทุนในกรรมสิทธิของทรัพย์สินที่ตั้งอยู่ในนิคมอมตะนคร ซึ่งปัจจุบันเป็นสิทธิการเช่าจำนวน 23 ยูนิต ซึ่งจะทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของ TREIT เพิ่มเป็น 3.4 หมื่นล้านบาท ในสิ้นปี 61 หรือเพิ่มขึ้น 12% จากปี 60

ขณะเดียวกันแผนการลงทุนในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้และในปี 62 บริษัทจะเข้าไปซื้อสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าและโรงงานนอกกลุ่ม TICON ซึ่งมีการเจรจาอยู่หลายดีล และคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้ 1 ดีล ซึ่งเป็นคลังสินค้าและโรงงานนอกกลุ่ม มูลค่า 500-1,000 ล้านบาท ส่วนในปี 62 บริษัทจะเริ่มมองหาการเข้าซื้อสินทรัพย์ในอาเซียน ซึ่งเน้นไปที่ประเทศเวียดนาม ที่มีการลงทุนด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์มากขึ้น ซึ่งยังคงเน้นไปที่สินทรัพย์คลังสินค้าและโรงงานเป็นหลัก

ส่วนแหล่งเงินทุนในการใช้ซื้อสินทรัพย์ใหม่มูลค่า 3.6 พันล้านบาทเข้ามานั้นคาดว่าจะใช้เงินกู้ระยะสั้นจากสถาบันการเงินก่อน ซึ่งปัจจุบันบริษัทไม่มีหนี้สินที่เป็นเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน ส่วนการออกหุ้นกู้ชุดใหม่จะพิจารณาออกอีกครั้งในภาวะที่อัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนไม่มาก เนื่องจากปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยมีความผันผวนและเป็นช่วงดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้กองทรัสต์จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบในการออกหุ้นกู้ เพื่อทำให้ต้นทุนทางการเงินไม่เพิ่มขึ้นไปมาก จากปัจจุบันอยู่ที่ 3.33%

ปัจจุบัน บริษัทมีหนี้สินที่เป็นหุ้นกู้มูลค่ารวม 5.54 พันล้านบาท ซึ่งมีอายุหุ้นกู้เฉลี่ยที่ 5 ปี โดยที่ในช่วงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมากองทรัสต์ได้ออกหุ้นกู้ไป 3.74 พันล้านบาท อายุ 5 ปี อันดับเครดิตความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้อยู่ที่ระดับ A ซึ่งการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เป็นการออกหุ้นกู้เพื่อมาชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน เป็นเป็นการลดความเสี่ยงของอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น ประกอบกับบริษัทได้รับวงเงินในการออกหุ้นกู้ที่ผู้ถือหุ้นอนุมัติมา 1 หมื่นล้านบาท ทำให้บริษัทมีโอกาสในการออกหุ้นกู้ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้การได้สินทรัพย์ใหม่จากกลุ่ม TICON เข้ามาในช่วงครึ่งปีหลังจะช่วยสร้างรายได้ให้กับกองทรัสต์เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 240 ล้านบาท/ปี จากการที่มีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่าและโรงงานเพิ่มขึ้นเป็น 1.6 ล้านตารางเมตร จากปัจจุบันที่ 1.5 ล้านตารางเมตร และมีอัตราการเช่าเฉลี่ยเพิ่มเป็น 80% จากปัจจุบันที่ 79% ประกอบกับทำให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลเพิ่มขึ้นอีก 6% มาอยู่ที่ 0.6853% จากปัจจุบันที่ 0.6451% โดยสินทรัพย์ที่ TREIT บริหารเป็นคลังสินค้าและโรงงานส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ระเบียงเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และกรุงเทพฯตอนเหนือ

"TREIT ยังคงต้องเดินหน้าขยายมูลค่าสินทรัพย์อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตเป็นอย่างดี และมีจำนวนฐานผู้เช่าขนาดใหญ่จากอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นสิ่งที่ช่วยดึงดูดความน่าสนใจของนักลงทุนทั้งไทยและต่างชาติ เพราะที่ผ่านมาเมื่อเรารวมกองมาเป็น TREIT แล้วทำให้ขนาดกองใหญ่ขึ้น และต้นปีได้ไปโรดโชว์ที่ญี่ปุ่นมา ก็มีนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาลงทุนไน TREIT แต่เขาจะเข้ามาซื้อในกระดานเอง ซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนใน TREIT สัดส่วน 4%"นายพีระพัฒน์ กล่าว

ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมในประเทศไทยจะมีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้น จากปัจจัยสนับสนุนต่างๆ เช่น นโยบายอุตสาหกรรม 4.0 รวมถึงนโยบายพัฒนาพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐ ตลอดจนความเชื่อมั่นของกลุ่มนักลงทุนที่กำลังฟื้นตัว ทำให้กองทรัสต์เตรียมแผนการขยายการลงทุนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมองหาโอกาสในการเพิ่มรายได้ให้แก่กองทรัสต์ ผ่านวิธีการลงทุนในลักษณะต่างๆ เช่น การขายและเช่ากลับ (Sale & Leaseback) การเพิ่มมูลค่าทรัพย์สินโดยการปรับปรุงคุณภาพทรัพย์และพื้นที่เช่า (Asset Enhancement Initiative) ภายใต้การบริหารงานโดยทีมผู้เชี่ยวชาญจากหลายหน่วยงานที่เปี่ยมด้วยองค์ความรู้และประสบการณ์ผนวกกับทิศทางการดำเนินธุรกิจเชิงรุก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ