SMART เผย H1/61 ขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน มั่นใจภาพรวม H2/61 ดีต่อเนื่องตามการลงทุนฟื้น

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday August 6, 2018 10:03 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายรังสี ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บมจ. สมาร์ทคอนกรีต (SMART) กล่าวถึงผลประกอบการงวดครึ่งแรกปี 2561 มีทิศทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ขาดทุนลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมีรายได้รวม 175.04 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.92 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.07% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 152.12 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 18.41 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 48.26 ล้านบาท

ส่วนงวดไตรมาส 2/61 โดยมีรายได้รวม 86.19 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.11 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 19.58% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 72.07 ล้านบาท และมีผลขาดทุนสุทธิ 10.35 ล้านบาท ขาดทุนลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีผลขาดทุนสุทธิ 13.22 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลประกอบการฟื้นตัวขึ้นมาจากปริมาณการใช้งานวัสดุอิฐมวลเบาของโครงการภาครัฐขนาดกลาง การลงทุนโครงการของภาคเอกชนเริ่มมีการฟื้นตัว และราคาจำหน่ายอิฐมวลเบามีการปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นและขาดทุนสุทธิของบริษัทปรับตัวดีขึ้น

"ในช่วงครึ่งปีหลัง ทิศทางภาพรวมตลาดวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบาในประเทศ ยังมีทิศทางที่ดีอย่างต่อเนื่อง กลับมาคึกคักตามนโยบายระเบียงเศรษฐกิจพิเศษ EEC การลงทุนในโครงการเมกะโปรเจคขนาดใหญ่ของภาครัฐที่เริ่มดำเนินโครงการ อาทิ งานก่อสร้างอาคารสถานีรถไฟฟ้าสายสีเขียว สีน้ำเงิน และผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทยอยลงทุนในโครงการใหม่มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง-อิฐมวลเบา ปรับตัวดีขึ้นและ SMART ยังคงเดินหน้าทำการตลาดเชิงรุก แนะนำสินค้าให้เป็นที่รู้จักและผลักดันสินค้าผ่านทุกช่องทางการจำหน่าย ส่วนของโครงการภาครัฐ-เอกชนขนาดใหญ่ก็ยังเดินหน้าทำตลาดต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่"นายรังสี กล่าว

นอกจากนี้บริษัทยังคงเดินหน้าแผนขยายฐานลูกค้ารายย่อย ผู้ออกแบบ ผู้รับเหมา ให้ครอบคลุมทั่วประทศมากขึ้น เนื่องจากมีความต้องการใช้งานอย่างต่อเนื่อง โดยมีการกระจายผลิตภัณฑ์ผ่านร้านโมเดิร์นเทรดชั้นนำในทุกภูมิภาค โดยปัจจุบันมีวางจำหน่ายในไทวัสดุจำนวน 42 สาขา โกลบอลเฮ้าส์ 17 สาขา ซึ่งบริษัทจะเพิ่มช่องทางจำหน่ายดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งออกบล็อกมวลเบาตกแต่งที่มีลวดลายใหม่เพิ่มเติม เพื่อรองรับความต้องการกลุ่มลูกค้า

ส่วนตลาดในกลุ่มประเทศ AEC บริษัทได้รุกตลาดในประเทศ สปป.ลาวมากขึ้น โดยมีแผนเพิ่มตัวแทนจำหน่ายให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ เนื่องจากความต้องการใช้งานในสปป.ลาวมีการขยายตัวค่อนข้างมาก ปัจจุบันมีออเดอร์สินค้าเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่วนตลาดในประเทศกัมพูชา ยังเติบโตดีมีปริมาณคำสั่งซื้อต่อเนื่อง คาดว่าสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 2-3 %


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ