WHART เร่งเจรจาหาลูกค้าใหม่ทดแทนลูกค้าเดิมที่ไม่ต่อสัญญาเช่าคลังสินค้า, เตรียมซื้อสินทรัพย์เพิ่มสิ้นปีนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday August 8, 2018 12:38 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายปิยะพงศ์ พินธุประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด (WHAREM) ผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (WHART) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกองรีทได้เจรจากับผู้เช่าหลายรายที่สนใจเข้ามาใช้บริการเช่าคลังสินค้าของกอง WHART เพื่อให้เข้ามาทดแทนผู้เช่ารายใหญ่และผู้เช่ารายเล็กอื่น ๆ หมดสัญญาเช่าและไม่ได้ต่อสัญญาเช่ารวมพื้นที่ทั้งสิ้น 100,000 ตารางเมตร (ตร.ม.) ในช่วงไตรมาส 1/61 ซึ่งส่งผลให้อัตราการเช่าพื้นที่ปรับลดลงเหลือ 90% จากระดับ 95% ในช่วงสิ้นปี 60 โดยล่าสุดจะมีผู้เช่ารายใหม่จะเข้ามาเช่าพื้นที่แล้วจำนวน 45,000 ตร.ม.ในช่วงปลายปีนี้หรือต้นปี 62

ทั้งนี้ กองรีทยังคงต้องเดินหน้าหาผู้เช่ารายอื่น ๆ เข้ามาทดแทนผู้เช่าเดิมอย่างต่อเนื่อง เพราะผู้เช่ารายใหม่ในขณะนี้ยังไม่สามารถทดแทนผู้เช่าเดิมได้ทั้งหมด ทำให้อัตราการเช่าในสิ้นปีนี้คาดว่าจะยังทรงตัวที่ระดับ 90% แต่หากมีผู้เช่ารายอื่นที่ครบสัญญาและไม่ต่อสัญญาเช่าเพิ่มเติมในช่วงไตรมาส 4/61 นี้ คาดว่ามีโอกาสลดลงมาอยู่ที่ระดับ 88%

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแนวโน้มของอัตราการเช่าพื้นที่ของ WHART จะยังไม่สามารถกลับไปที่ระดับ 95% ได้อย่างรวดเร็ว แต่ถือว่าอัตราการเช่าพื้นที่ยังอยู่ในระดับสูง และประสิทธิภาพในการบริหารพื้นที่คลังสินค้าของกองยังมีประสิทธิภาพที่ดีกว่ากองอื่น ๆ ซึ่งจะเห็นได้จากจำนวนพื้นที่คิดเป็นหน่วยตารางเมตรที่มากกว่า และกำไรต่อตารางเมตรที่ดีกว่า ที่สะท้อนออกมาจากผลการดำเนินงานที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับที่ดีเฉลี่ย 7% ทำให้นักลงทุนยังมั่นใจการลงทุนใน WHART

นอกจากนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.-ธ.ค.นี้ บริษัทจะเข้าซื้อสินทรัพย์ประเภทคลังสินค้าให้เช่าจาก บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) อีก 160,000 ตร.ม. มูลค่า 4.46 พันล้านบาท โดยใช้เงินลงทุนจากการเพิ่มทุนและเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน สัดส่วน 38% โดยที่หลังจากการซื้อสินทรัพย์ใหม่เข้ามาแล้ว ทำให้ WHART จะมีพื้นที่เช่ารวมเพิ่มเป็น 1.13 ล้านตร.ม. จากปัจจุบันที่มีพื้นที่เช่ารวมอยู่ที่ 970,000 ตร.ม. และมีมูลค่าขนาดสินทรัพย์เพิ่มขึ้นเป็น 3.26 หมื่นล้านบาท จากปัจจุบันที่ 2.8 หมื่นล้านบาท

โดยที่ WHART มีนโยบายการซื้อสินทรัพย์เพิ่มเข้ามาในทุกปี และได้มีการพิจารณาซื้อสินทรัพย์นอกกลุ่มเข้ามาเพิ่มด้วยเช่นกัน ส่วนการซื้อสินทรัพย์ในต่างประเทศก็มีการพิจารณา แต่ยังติดปัญหาในแง่กฏระเบียบของการโอนสินทรัพย์และการบันทึกในงบการเงิน ซึ่งทางกองรีทได้พิจารณาการซื้อคลังสินค้าในประเทศอินโดนีเซียของ WHA แต่ยังติดปัญหาเรื่องกฏระเบียบต่าง ๆ ทำให้ทางกองไม่เร่งรีบในการเข้าลงทุน ส่วนประเทศอื่น ๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตามความเหมาะสม เพราะการลงทุนในสินทรัพย์ต่างประเทศอาจจะส่งผลกดดันต่อผลตอบแทนจากการลงทุนได้ ทำให้ทางกองระมัดระวังในการลงทุน เพื่อรักษาผลตอบแทนจากการลงทุนไม่ให้ลดลง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ