ทริส จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน วงเงิน 1.5 หมื่นลบ.ของ MINT ที่ระดับ "BBB+/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday August 9, 2018 14:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บมจ.ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล (MINT) ที่ระดับ "A" ขณะเดียวกัน ทริสเรทติ้งยังจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุน ไม่มีประกันและไถ่ถอนเมื่อเลิกบริษัทในวงเงินไม่เกิน 15,000 ล้านบาทของบริษัทที่ระดับ "BBB+" ด้วย โดยหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนมีอันดับเครดิตต่ำกว่าอันดับเครดิตองค์กรของบริษัทอยู่ 2 ระดับ ทั้งนี้ เนื่องจากหุ้นกู้ดังกล่าวมีลักษณะการด้อยสิทธิและผู้ออกตราสารสามารถเลื่อนการชำระดอกเบี้ยพร้อมกับสะสมดอกเบี้ยจ่ายของหุ้นกู้ได้

ทริสเรทติ้งกำหนดให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนของ MINT มีระดับความเป็นทุนระดับปานกลาง (Intermediate Equity Content) ตามลักษณะของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าว ซึ่งรวมถึงความด้อยสิทธิ ความสามารถในการเลื่อนชำระดอกเบี้ยตามดุลยพินิจของบริษัท การห้ามไถ่ถอนหุ้นกู้ในช่วง 5 ปีแรก และมีอายุตราสารที่ยาวนาน

ดังนั้น ในการคำนวณอัตราส่วนทางการเงินของบริษัท ทริสเรทติ้งพิจารณา 50% ของเงินต้นคงค้างของหุ้นกู้เป็นทุน และอีก 50% เป็นเงินกู้ และระดับความเป็นทุนของตราสารนี้จะถูกปรับลดลงมาอยู่ที่ระดับความเป็นทุนน้อย (0%, Minimal Equity Content) ในวันครบกำหนด 5 ปีนับจากวันออกหุ้นกู้ เนื่องจากอายุคงเหลือจริง (Remaining Effective Maturity) ณ วันดังกล่าวน้อยกว่า 20 ปี ตามเกณฑ์การจัดอันดับเครดิตของทริสเรทติ้งนั้น อายุคงเหลือจริงของตราสารจะลดลงเมื่อมีการปรับอัตราดอกเบี้ย (Step Up Interest) เพิ่มขึ้นเท่ากับหรือมากกว่า 100 Basis Points (bps) ซึ่งในกรณีของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนนี้ กรณีดังกล่าวจะเกิดขึ้นเมื่อหุ้นกู้ครบกำหนด 25 ปีนับจากวันที่ออกหุ้นกู้

นอกเหนือจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อกำหนดสิทธิฯ ของหุ้นกู้ เช่น การเปลี่ยนแปลงในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล การเปลี่ยนแปลงในหลักการทางบัญชี หรือการเปลี่ยนแปลงในหลักเกณฑ์การพิจารณาของสถาบันจัดอันดับเครดิตในเรื่องของความเป็นทุนของหุ้นกู้แล้ว บริษัทมีความประสงค์ (แต่ไม่ถูกผูกพันให้ต้องดำเนินการ) ที่จะชำระคืนเงินต้นของหุ้นกู้ที่ไถ่ถอนหรือซื้อคืนด้วยตราสารทุนที่เท่าเทียมกันหรือดีกว่า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งอาจจะลดระดับความเป็นทุนของหุ้นกู้ด้อยสิทธิลักษณะคล้ายทุนที่จะออกใหม่และที่คงค้างสู่ระดับความเป็นทุนน้อยจากระดับความเป็นทุนปานกลางหากทริสเรทติ้งเชื่อว่าบริษัทมีความตั้งใจที่จะปฏิบัติให้แตกต่างจากข้อผูกพันเรื่องการออกหลักทรัพย์เพื่อทดแทนหุ้นกู้ในข้อกำหนดสิทธิฯ ดังกล่าว

อันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะทางการตลาดที่เข้มแข็งของบริษัทในธุรกิจโรงแรมและร้านอาหาร รวมถึงแหล่งรายได้ที่หลากหลายทั้งจากแบรนด์ที่แข็งแกร่งและทำเลที่ตั้ง หากการซื้อกิจการของ NH Hotel Group SA (NHH) ประสบความสำเร็จตามแผนก็จะยิ่งเสริมฐานะทางธุรกิจของบริษัทให้แข็งแกร่งมากขึ้นจากโอกาสในการขยายธุรกิจสู่ทวีปยุโรปด้วยการเพิ่มจำนวนโรงแรมในทำเลใหม่ ๆ และขยายฐานลูกค้าให้มากขึ้น

การซื้อกิจการของ NHH จะทำให้ขอบเขตการดำเนินงานและรายได้ของบริษัทมีขนาดใหญ่ยิ่งขึ้น รายได้ของบริษัทจะเพิ่มเป็น 2 เท่าหลังจากมีการรวมงบการเงินของ NHH เข้ามาในปี 2562 โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีรายได้ถึงระดับ 1.26-1.32 แสนล้านบาทในปี 2562-2563 และจะมี EBITDA (กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย) อยู่ที่ระดับ 2.4-2.6 หมื่นล้านบาทในช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ดี จุดแข็งดังกล่าวถูกลดทอนลงบางส่วนจากภาระหนี้ของบริษัทที่จะเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการซื้อกิจการของ NHH จะใช้เงินทุนจากการกู้ยืมเป็นหลัก โดยภาระหนี้ของบริษัทที่ประเมินจากอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อ EBITDA ที่ไม่รวมรายการพิเศษและปรับปรุงแล้วจะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 5-6 เท่า จากระดับ 4 เท่าก่อนหน้าที่บริษัทจะเข้าซื้อกิจการ

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจที่แข็งแกร่งของบริษัทจากการมีธุรกิจที่หลากหลายทั้งประเภทและทำเลที่ตั้ง โดยทริสเรทติ้งคาดหมายว่าบริษัทจะประสบความสำเร็จในการรวมธุรกิจกับ NHH และจะยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทจะเกิดขึ้นในกรณีที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ดีกว่าการคาดการณ์ของทริสเรทติ้งจนทำให้อัตราส่วนเงินกู้รวมต่อ EBITDA ที่ปรับปรุงแล้วลดลงไปอยู่ที่ระดับก่อนการซื้อกิจการของ NHH ในขณะที่การปรับลดอันดับเครดิตในระยะ 12-18 เดือนข้างหน้านั้นมีจำกัดแต่ก็อาจเกิดขึ้นได้ในกรณีที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ถดถอยลงอย่างมีนัยสำคัญ หรือบริษัทมีการลงทุนขนาดใหญ่โดยใช้การก่อหนี้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ