ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,722.48 จุด เพิ่มขึ้น 0.84 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 47,875.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,729.42 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,716.90 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 571 หลักทรัพย์ ลดลง 634 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 518 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้รีบาวด์ขึ้นรับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มแบงก์ ซึ่งบางตัวยัง Laggard ว่าตลาดฯ ขณะที่ได้รับแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มพลังงานภายหลังจากราคาน้ำมันปรับตัวลง
สัปดาห์หน้าก็จะเป็นช่วงโค้งสุดท้ายในการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งเมื่อเสร็จสิ้นแล้วตลาดฯก็อาจจะหันไปมองประเด็นสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนต่อไป หากการเจรจาเรื่องนี้ยังไม่ชัดเจนก็มีโอกาสที่หุ้นจะถูก Take Profit ออกมาบ้าง ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ยังต้องติดตามความคืบหน้าเป็นเรื่องสงครามการค้า และการทยอยประกาศงบฯ รวมถึงตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ (CPI) ของสหรัฐฯที่จะต้องติดตามในวันพรุ่งนี้
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (10 ส.ค.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งไซด์เวย์ โดยโอกาสปรับตัวขึ้นอาจจำกัดจากความกังวลสงครามการค้า พร้อมให้แนวรับ 1,715 จุด ส่วนแนวต้าน 1,740 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,749.47 ล้านบาท ปิดที่ 147.50 บาท เพิ่มขึ้น 4.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,665.60 ล้านบาท ปิดที่ 52.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,893.74 ล้านบาท ปิดที่ 83.75 บาท ลดลง 0.25 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,535.00 ล้านบาท ปิดที่ 74.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,494.77 ล้านบาท ปิดที่ 217.00 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท