SET ปิดช่วงบ่ายที่ระดับ 1,718.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 50,616.92 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯ เผยตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ สอดคล้องกับทิศทางของตลาดหุ้นต่างประเทศที่คลายความกังวลสงครามการค้า และคาดหวังงาน"Thailand Focus 2018: The Future is Now"พรุ่งนี้ช่วยหนุนหลังสถิติแสดงดัชนีดีดตัวหลังจบงาน แม้ดัชนีปรับขึ้นแรงวานนี้อาจทำให้ตลาดเผชิญแรงขายทำกำไรระหว่างทางบ้าง แต่แนวโน้มพรุ่งนี้ยังมอง Sentiment บวก ให้แนวรับบริเวณ 1,700 จุด และแนวต้านที่ 1,740 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,718.15 จุด เพิ่มขึ้น 0.91 จุด (+0.05%) มูลค่าการซื้อขาย 50,616.92 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวก โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,728.22 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,716.57 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 622 หลักทรัพย์ ลดลง 643 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 481 หลักทรัพย์
นายณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกสอดคล้องกับตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาค รวมถึงตลาดหุ้นยุโรปที่เปิดทำการในช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาในไทย หลังได้รับปัจจัยบวกต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมาทางการจีนส่งสัญญาณพยุงค่าเงินหยวน และประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณไม่เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ขณะวานนี้ยังมีเรื่องที่สหรัฐและเม็กซิโกบรรลุข้อตกลงการค้าทวิภาคีระหว่างกัน ทำให้ความกังวลต่อสงครามการค้าผ่อนคลายลงช่วงสั้น ขณะที่ทิศทางราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) แข็งค่าขึ้นด้วย หนุนให้ตลาดหุ้นของ Emerging Market เคลื่อนไหวอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
สำหรับตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ และเช้านี้เปิดปรับตัวขึ้นไปต่อได้ค่อนข้างดี ทำให้มีแรงขายทำกำไรระหว่างทางออกมาบ้าง ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจ เนื่องจากหลังการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2/61 ออกมาโบรกเกอร์หลายแห่งก็ได้ปรับลด EPS ของตลาดในปีนี้ลง ทำให้ตลาดมี P/E สูงขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นไทยยังได้ปัจจัยหนุนจากการจัดงาน Thailand Focus ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 29-31 ส.ค. ซึ่งตามสถิติดัชนีหุ้นไทยจะปรับขึ้นและให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (return) ราว 3% ในช่วง 1 เดือนหลังจากการจัดงานสิ้นสุดลง โดยนักลงทุนต่างชาติจะกลับเข้ามาซื้อสุทธิมูลค่าเฉลี่ยราว 1 หมื่นล้านบาท
ขณะที่ปัจจุบันแม้จะยังไม่เห็นการเข้ามาซื้อสุทธิของต่างชาติในตลาดหุ้น แต่ได้เข้ามาซื้อสุทธิในตลาดตราสารหนี้ต่อเนื่องในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา โดยมียอดซื้อกว่า 7 หมื่นล้านบาท ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลจากการที่ต่างชาติมองสกุลเงินบาทยังเป็นหลุมหลบภัยที่ดี เนื่องจากไทยมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับ Emerging Market แห่งอื่น
การที่เม็ดเงินต่างชาติอาจจะยังไม่ไหลกลับเข้ามาในตลาดหุ้นไทยมากนัก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นผลจาก Valuation ที่ค่อนข้างตึงตัวจาก EPS ที่ปรับลดลง อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าเมื่อเสร็จสิ้นงาน Thailand Focus แล้วจะเริ่มเห็นแรงซื้อกลับเข้ามา ซึ่งทำให้ภาพในระยะ 1 เดือนข้างหน้าตลาดหุ้นไทยเป็นลักษณะ Sideway ถึง Sideway up
สำหรับแนวโน้มการซื้อขายในวันพรุ่งนี้ มองว่าดัชนียังเป็นลักษณะ Sideway ถึง Sideway up หลังตลาดหลักทรัพย์ฯจะเปิดงาน Thailand Focus ในวันพรุ่งนี้ (29 ส.ค.) โดยยังมองการเคลื่อนไหวอิงทางบวกมีแนวรับบริเวณ 1,700 จุด และแนวต้านที่ 1,740 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 4,881.41 ล้านบาท ปิดที่ 52.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,409.14 ล้านบาท ปิดที่ 68.75 บาท ลดลง 0.50 บาท
BEAUTY มูลค่าการซื้อขาย 2,513.27 ล้านบาท ปิดที่ 10.70 บาท ลดลง 0.10 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,146.06 ล้านบาท ปิดที่ 66.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,986.23 ล้านบาท ปิดที่ 81.75 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท