นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ และนายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวว่า การจัดงาน Thailand Focus 2018 ในปีนี้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เป็นเจ้าภาพจัดงานเอง ซึ่งดีกว่าที่จะให้โบรกเกอร์จัดงาน เพราะทำให้มีผู้สนใจเข้ามาร่วมงานจำนวนมาก จึงเชื่อว่าน่าจะเรียกความมั่นใจกับนักลงทุนได้มากขึ้น ถือว่าเป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันมีค่า P/E อยู่ที่เพียง 14 เท่า ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจ
ส่วนการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ที่ใกล้จะเปิดจำหน่ายหน่วยลงทุน คาดว่าผลตอบแทนอยู่ในระดับดี เนื่องจากกองทุนฯ มีรายได้จากทางด่วนที่เปิดดำเนินการอยู่ในปัจจุบัน ทำให้มีกระแสเงินสดไหลเข้าสม่ำเสมอและไม่มีความเสี่ยง ต่างจากการลงทุนโครงการที่ยังไม่ก่อสร้างหรืออยู่ระหว่างการก่อสร้าง เพราะมีความเสี่ยงและจะต้องจ่ายผลตอบแทนที่สูงจึงจะจูงใจนักลงทุน
นายไพบูลย์ กล่าวว่า การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานหากสามารถแยกประเภทการลงทุนได้ ได้แก่ ทางด่วน รถไฟฟ้า เป็นต้น จะยิ่งดีกับการลงทุนเพราะวิเคราะห์ประเมินได้ง่ายกว่า ทั้งนี้ เห็นว่าการระดมเงินของภาครัฐผ่านกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นแนวทางที่ดีต่อรัฐบาลในการนำเงินทุนไปลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ที่มีแผนจะลงทุนมากขึ้น
ด้านนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ Country Head บริษัท CLSA Securities (Thailand) Ltd กล่าวว่า ในปีนี้ ตลท.เป็นเจ้าภาพจัดงาน Thailand Focus 2018 ซึ่งต่างจากครั้งก่อนที่ตลาดฯจัดร่วมกับบริษัทหลักทรัพย์ฯ ทำให้ปีนี้มีจำนวนผู้เข้าร่วมงานมากทีไม่จำกัดที่เป็นลูกค้าของโบรกเกอร์ นักลงทุนก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ นักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการทราบข้อมุลโครงการเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก(EEC) การลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ รวมทั้งคาดว่าหลังจากงาน Thailand Focus 2018 จะเพิ่มความเชื่อมั่นนักลงทุนและเชื่อว่าดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) มีโอกาสปรับตัวขึ้นมาก
นายปริญญ์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในระยะสั้นในขณะนี้รับปัจจัยลบจากต่างประเทศ โดยเฉพาะความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน โดยมีประธานาธิบดีนายโดนัล์ ทรัมป์ ทวีตข้อความโต้ตอบกดดันสถานการณ์เป็นระยะ หรือการเปิดเจรจาการค้ากับเม็กซิโกที่ตลาดทุนตอบรับเชิงบวก รวมทั้งปัจจัยที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่เร่งการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพราะไม่ต้องการให้เกิดสภาพการเงินตึงตัวในตลาดโลกในปีนี้
ทั้งนี้ CLSA ยังคงเป้า SET Index ปีนี้ที่ 1,800-1,900 จุด และคาดว่าจะเห็น All time high ในปีนี้ แม้อาจจะอยู่ในสมมติฐานว่ามีการเลื่อนการเลือกตั้งออกไป 6-12 เดือนก็ตาม