ทริสฯ จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ ไม่เกิน 1.3 หมื่นลบ.ของ "บัตรกรุงศรีอยุธยา" ที่ "AAA/Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday August 31, 2018 14:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งยืนยันอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บริษัท บัตรกรุงศรีอยุธยา จำกัด ที่ระดับ "AAA" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 13,000 ล้านบาท อายุไม่เกิน 3 ปีของบริษัทที่ระดับ "AAA" ด้วยเช่นกัน อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะในการเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ที่มีสาขาครอบคลุมทั่วประเทศ และได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กรที่ระดับ "AAA" ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" จากทริสเรทติ้ง

อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่บริษัทบัตรกรุงศรีอยุธยามีฐานะเป็นบริษัทลูกที่ถือหุ้นทั้งหมดโดยธนาคารกรุงศรีอยุธยา ซึ่งอยู่ในกลุ่ม Solo Consolidation ภายใต้การดูแลและกำกับโดยธนาคารแม่อย่างใกล้ชิดเสมือนหนึ่งว่าอยู่ภายใต้การควบคุมทางอ้อมโดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) บริษัทยังมีระบบปฏิบัติการร่วมกับธนาคารอย่างเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ธนาคารยังให้การสนับสนุนบริษัทในด้านความร่วมมือทางธุรกิจและการสนับสนุนทางการเงินที่เพียงพอและต่อเนื่องจากธนาคารในรูปของวงเงินสินเชื่ออีกด้วย

บริษัทรักษาความเป็นผู้นำในธุรกิจบัตรเครดิตโดยมีส่วนแบ่งทางการตลาด 11% ของมูลค่าสินเชื่อบัตรเครดิตคงเหลือรวมของทั้งอุตสาหกรรมในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา เงินให้สินเชื่อรวมของบริษัทเติบโตเป็น 47,203 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2560 เพิ่มขึ้น 7% จาก 44,054 ล้านบาท ณ สิ้นปี 2559 ระบบการให้สินเชื่อและระบบการจัดเก็บหนี้ที่มีประสิทธิภาพช่วยทำให้บริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนสินเชื่อค้างชำระของบัตรเครดิต (เกิน 90 วัน) ต่อสินเชื่อรวมให้อยู่ที่ระดับไม่เกิน 1% ในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมาซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม บริษัทมีนโยบายการตั้งสำรองที่เข้มงวดโดยกำหนดอัตราค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อรวมไว้ที่ระดับ 6.1% ณ สิ้นปี 2560 ซึ่งส่งผลให้สัดส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อค้างชำระ (เกิน 90 วัน) เพิ่มขึ้นเป็น 619% ณ สิ้นปี 2560 จาก 545% ณ สิ้นปี 2559 ซึ่งคาดว่าเป็นอัตราที่เพียงพอที่จะทำให้บริษัทสามารถรับมือกับความผันผวนในการดำเนินธุรกิจที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

บริษัทมีผลประกอบการทางการเงินที่มีแนวโน้มดีขึ้น โดยกำไรสุทธิเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็น 1,700 ล้านบาทในปี 2560 เพิ่มขึ้น 19% จาก 1,427 ล้านบาทในปี 2559 อัตราส่วนผลตอบแทนต่อสินทรัพย์รวมถัวเฉลี่ยก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% ในปี 2560 จาก 3.2% ในปี 2559 การปรับปรุงเกณฑ์การกำกับดูแลสินเชื่อบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของ ธปท. ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2560 โดยเฉพาะในส่วนของการปรับลดเพดานดอกเบี้ยที่สามารถเรียกเก็บจากลูกค้า อาจจะกระทบต่อความสามารถในการทำกำไรของบริษัท อย่างไรก็ตาม ทริสเรทติ้งคาดหวังว่าบริษัทจะสามารถปรับตัวได้และมีผลการดำเนินงานทางการเงินในระดับที่ยอมรับได้

แนวโน้มอันดับเครดิต

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนการคาดการณ์ว่าบริษัทจะคงสถานะความเป็นบริษัทย่อยที่เป็นธุรกิจหลักของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาและยังคงได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากธนาคารแม่ต่อไป

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

สถานะด้านเครดิตของบริษัทอาจได้รับผลกระทบในกรณีที่สถานะด้านเครดิตของกลุ่มธนาคารกรุงศรีอยุธยาเปลี่ยนแปลงไป หรือเมื่อทริสเรทติ้งเห็นว่ามีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในระดับของการสนับสนุนที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยามีต่อบริษัท หรือเมื่อความสำคัญของบริษัทที่มีต่อกลุ่มเปลี่ยนแปลงไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ