บล.ไอร่า คาดหุ้นไทยเดือน ก.ย.แกว่งผันผวนรับแรงกดดันสงครามการค้า แม้มีปัจจัยหนุนจาก Window Dressing-การเมืองชัดเจน

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday September 6, 2018 10:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางจิตรลดา เลขาพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.ไอร่า เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในเดือน ก.ย.คาดว่าตลาดหุ้นไทยจะยังแกว่งตัวผันผวน เนื่องจากเจอแรงกดดันจากต่างประเทศ ทั้งปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่มีแนวโน้มบานปลาย หลังสหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเพิ่มอีก บวกการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในช่วงที่เหลือของปีนี้อีก 2 รอบ แม้ว่าอาจจะมีปัจจัยบวกจากการทำราคาปิดสิ้นงวดบัญชี (Window Dressing) ปิดงบการเงินไตรมาส 3/61 ในช่วงปลายเดือน และความคืบหน้าเรื่องการเลือกตั้งภายในประเทศ

โดยประเด็นการเมืองคาดว่า Sentiment ดีขึ้นตามลำดับ หลังกำหนดวันเลือกตั้ง เบื้องต้น 24 ก.พ.62 พร้อมใช้ ม.44 ปลดล็อคพรรคการเมือง คาดสามารถทำกิจกรรมการเมืองได้ช่วง ก.ย.–ธ.ค.61 หลังกฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และการได้มาซึ่งส.ว. ประกาศใช้ ผนวกกับ Thailand Future Fund มูลค่า 45,000 ล้านบาท มีแผนขายหน่วยลงทุน ต.ค. นี้ และคาดเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นเดือน พ.ย.

ส่วนปัจจัยที่ยังคงกดดันภาพรวมการลงทุนในเดือนนี้มาจาก Fund Flow ต่างชาติขายสุทธิ 10,418 ล้านบาท ทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่ยอดขายสุทธิสะสมในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้อยู่ที่ระดับ 201,117 ล้านบาท หรือประมาณ 6,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงสุดในกลุ่ม TIP โดยอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ยอดขายสุทธิสะสมอยู่ที่ประมาณ 3,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ 1,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ตามลำดับ อย่างไรก็ตามตลาดพันธบัตรต่างชาติซื้อสุทธิ ประมาณ 5,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาสำหรับเดือยก.ย. คือ การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 19 ก.ย.61 คาดยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 1.50%ต่อปี แต่คาดอาจเริ่มส่งสัญญาณลดการใช้นโยบายผ่อนคลายลง หลังเศรษฐกิจขยายตัวดีต่อเนื่อง และอัตราเงินเฟ้อเข้าสู่เป้าหมาย คาดอาจเริ่มพิจารณาปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยปลายปี 61 ถึงต้นปี 62 รวมถึงการประชุมเฟด ในวันที่ 25-26 ก.ย.61 คาดขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 3 พร้อมคาดเกิดขึ้นอีก 1 ครั้งในเดือน ธ.ค. ช่วงวันที่ 18 -19 ธ.ค.61 คาดรวมทั้งหมด 4 ครั้งในปี 61 คาดอัตราดอกเบี้ยสิ้นปี 61 อยู่ที่ 2.25 - 2.50% ขณะที่คาดปรับขึ้นต่อเนื่องอีก 2 - 3 ครั้งในปี 62

นอกจากนี้ ความไม่แน่นอนในนโยบายทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ ทั้งการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และแคนาดา ที่ก่อนหน้ามีความคาดหวังในเชิงบวก ต่อข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (NAFTA) ฉบับใหม่ และการเจรจาระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่ผ่านมา 2 รอบ ยังไม่มีความชัดเจน ซึ่งคาดต้องใช้ระยะเวลาในการเจรจาต่อรอง พร้อมกับความกังวลต่อสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน รอบใหม่ที่อาจมีความรุนแรงเพิ่มขึ้น

ดังนั้น ประเมินกลยุทธ์การลงทุนในเดือนก.ย. คาดมีความผันผวน ภายใต้ประเด็นเดิมต่างประเทศที่กลับมามีความไม่แน่นอน และมีน้ำหนักกดดันอีกครั้ง โดยเฉพาะการทำสงครามการค้ารอบใหม่ระหว่างสหรัฐฯ และจีน ล่าสุดสถานการณ์ส่งสัญญาณมีความรุนแรงมากขึ้น หลังสหรัฐฯ มีแผนเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน อัตรา 25% วงเงินเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (50%ของมูลค่าสินค้าจีนที่สหรัฐฯ นำเข้า) หลังก.ค.-ส.ค. ที่ผ่านมา 2 ประเทศ เรียกเก็บภาษีสินค้าระหว่างกัน อัตรา 25% วงเงิน 50,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดครั้งที่ 3

อย่างไรก็ตาม ภายใต้ความไม่แน่นอนจากประเด็นต่างประเทศ ทำให้คาดดัชนีมีความผันผวน และราคาหุ้นมีโอกาสปรับลดลง อย่างไรก็ตามเป็น "โอกาสในการเข้าสะสม" โดยเฉพาะหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่ดีขึ้นตามลำดับ ทั้งจากการส่งออก และการท่องเที่ยวที่ยังดีต่อเนื่อง พร้อมกับการลงทุนภาครัฐฯ ที่คาดเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ครึ่งหลังของปีนี้ เป็นต้นไป รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ส่งสัญญาณที่ดี หลังไตรมาส 2/61 เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 67.5 สูงสุดในรอบ 13 ไตรมาสที่ผ่านมา แนะเก็งกำไรในหุ้นที่น่าสนใจ ได้แก่ CBG, COM7, CK, KCE, MTC, PTT และ TRUE เป็นต้น


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ