ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,717.96 จุด เพิ่มขึ้น 38.57 จุด (+2.30%) มูลค่าการซื้อขาย 78,999.35 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,723.48 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,690.84 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 1,217 หลักทรัพย์ ลดลง 325 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 285 หลักทรัพย์
นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างแรง ขานรับปัจจัยบวกทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยปัจจัยในประเทศมาจากประเด็นการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าขึ้น หลังจากที่พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญการได้มาซึ่งส.ว. ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษาแล้ว ทำให้ประเมินการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นได้ไม่เกินเดือนพ.ค. 2562 ซึ่งก็ยังเป็นไปตามแผนที่วางไว้ ส่งผลให้ตลาดดูดีขึ้นจากที่มีความหวังมากขึ้น
ส่วนปัจจัยต่างประเทศได้แรงหนุนมาจากเรื่องที่สหรัฐฯ และจีนจะมีการเจรจาการค้ารอบใหม่อีกครั้ง ส่งผลให้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้อยู่ในแดนบวกกันทั่วหน้าเฉลี่ยเกือบ 1% และตลาดในยุโรปก็อยู่ในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่เฉลี่ย 0.3% ขณะที่ตลาดบ้านเราบวกได้ดีกว่าตลาดต่างประเทศ จากแรงซื้อกลับเข้ามาค่อนข้างมากจากนักลงทุนสถาบัน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มพลังงานมีแรงซื้อกลับเข้ามามาก และหุ้นจำพวก Domestic Plays ก็สามารถขยับขึ้นมานำตลาดฯได้ค่อนข้างดี โดยรวมแล้ววันนี้ถือว่าหุ้นบิ๊กแคปขึ้นมายกแผง ช่วยทำให้ตลาดฯดีดตัวขึ้นได้แรง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (14 ก.ย.) นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดฯอาจจะแกว่งไซด์เวย์หลังจากที่วันนี้ตลาดฯปรับตัวขึ้นแรง พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คืนนี้ ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงอะไร แต่ให้รอดูว่าจะมีการพูดถึงประเด็นมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) หรือไม่ หลังจากที่ตามแผนจะสิ้นสุดการทำ QE ในสิ้นปีนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,706 จุด ส่วนแนวต้าน 1,730 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 6,908.49 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 6,076.29 ล้านบาท ปิดที่ 52.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,223.63 ล้านบาท ปิดที่ 148.00 บาท เพิ่มขึ้น 7.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,770.26 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,410.36 ล้านบาท ปิดที่ 214.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท