ทริสเรทติ้ง จัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ชุดใหม่ไม่เกิน 5 พันลบ.ของ TPIPL ที่ "BBB+" แนวโน้ม"คงที่"

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 17, 2018 16:47 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ทริสเรทติ้งคงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดปัจจุบันของ บมจ. ทีพีไอ โพลีน (TPIPL) ที่ระดับ "BBB+" พร้อมทั้งจัดอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันชุดใหม่ในวงเงินไม่เกิน 5,000 ล้านบาทที่ระดับ "BBB+" โดยบริษัทจะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้จำนวน 3,000 ล้านบาท ไปใช้ไถ่ถอนหุ้นกู้ที่มีอยู่เดิมซึ่งจะครบกำหนดชำระในปี 2562 นี้และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงาน

อันดับเครดิตสะท้อนถึงความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแรงของบริษัทในตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศ ตลอดจนผลประโยชน์ที่มากขึ้นจากการขยายเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน ทั้งนี้ อันดับเครดิตพิจารณารวมไปถึงความคาดหวังว่าสถานะการเงินของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากโรงไฟฟ้าที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เริ่มปฏิบัติการเชิงพาณิชย์ครบแล้ว อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตถูกลดทอนบางส่วนจากลักษณะที่เป็นวงจรขึ้นลงและการฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาดของอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ในประเทศ รวมถึงความเสี่ยงจากการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ RDF (Refuse-derived Fuel) ขนาดใหญ่

ทริสเรทติ้งมองว่าธุรกิจผลิตไฟฟ้าของบริษัทซึ่งดำเนินการภายใต้ บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) นั้นยังคงมีบทบาทที่สำคัญในการฟื้นฟูผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัท ทั้งนี้ กระแสเงินสดที่มั่นคงและมีขนาดใหญ่จากธุรกิจผลิตไฟฟ้านั้นจะชดเชยความเป็นวัฏจักรของธุรกิจวัสดุก่อสร้างของบริษัท และจะช่วยเสริมให้สถานะทางธุรกิจและความสามารถในการชำระหนี้ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงครึ่งแรกของปี 2561 นั้นปรับตัวดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังจากโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิง RDF กำลังการผลิต 70 เมกะวัตต์ได้เริ่มผลิตไฟฟ้าในเดือนเมษายน 2561 ที่ผ่านมา โดยในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2561 กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) เพิ่มขึ้นเป็น 2,680 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นเป็น 60.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่า เมื่อโรงไฟฟ้าทุกโรงได้เริ่มการผลิตไฟฟ้าอย่างเต็มที่ กำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายน่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 6,500-7,500 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ เราคาดหวังว่าโครงสร้างเงินทุนและสภาพคล่องของบริษัทจะปรับตัวดีขึ้นด้วย เนื่องจากบริษัทน่าจะเริ่มใช้กระแสเงินสดที่เพิ่มขึ้นมาชำระหนี้เงินกู้เพื่อลดแรงกดดันจากภาระดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม การประกาศเกี่ยวกับแผนในการซื้อหุ้นคืนของบริษัทและความเป็นไปได้ที่จะมีการลงทุนรอบใหม่นั้น เป็นปัจจัยยับยั้งการพัฒนาของอันดับเครดิต รวมไปถึงการฟื้นตัวของสถานะทางการเงินของบริษัทด้วยเช่นกัน ในปัจจุบัน บริษัทมีแผนจะซื้อหุ้นคืนในจำนวนสูงสุดที่ 2,500 ล้านบาท และมีแผนจะเข้าร่วมประมูลโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานจากขยะชุมชน โดยบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์จะออกหุ้นกู้จำนวน 4,000 ล้านบาท เพื่อเตรียมสำหรับการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว ซึ่งการออกหุ้นกู้ดังกล่าวทำให้ภาระเงินกู้รวมของทั้งกลุ่มนั้นมากขึ้นด้วยเช่นกัน

แนวโน้มอันดับเครดิต แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงการคาดการณ์ว่าบริษัทจะสามารถรักษาสถานะทางการตลาดที่แข็งแกร่งในธุรกิจปูนซีเมนต์และธุรกิจเม็ดพลาสติกเอาไว้ได้เช่นเดิม ในขณะที่การดำเนินงานของโรงไฟฟ้ารวมถึงโรงไฟฟ้าใหม่นั้นจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะสามารถลดภาระหนี้เงินกู้ได้ และมีกระแสเงินสดที่ขยายใหญ่ขึ้นซึ่งจะทำให้สถานะทางการเงินของบริษัทปรับตัวดีขึ้นด้วย เราคาดว่าสัดส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อเงินกู้รวมจะสูงกว่า 10% และอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายจะต่ำกว่า 8 เท่าในอีก 3 ปีข้างหน้า

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง

อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับเพิ่มขึ้นหากธุรกิจปูนซีเมนต์ของบริษัทเริ่มฟื้นตัว และ/หรือโรงไฟฟ้าสามารถสร้างกระแสเงินสดที่มากและลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้ตามแผน การลดลงของสัดส่วนเงินกู้ต่อส่วนทุนจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปรับอันดับเครดิตให้เพิ่มขึ้น การปรับเพิ่มอันดับเครดิตอาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทสามารถรักษาอัตราส่วนเงินกู้รวมต่อ EBITDA ให้ต่ำกว่า 6 เท่าได้เป็นระยะเวลานาน

อันดับเครดิต และ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับลดลงจากหากสถานะทางการเงินของบริษัทด้อยลงกว่าที่คาด ซึ่งอาจเกิดจากธุรกิจปูนซีเมนต์ที่ยังคงย่ำแย่เป็นระยะเวลานาน ผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่าคาดของโรงไฟฟ้า และการลงทุนที่ใช้เงินกู้เป็นจำนวนมาก นอกจากนี้ การสูญเสียส่วนทุนอย่างมากจากคดีความที่ยังคงดำเนินอยู่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สามารถลดอันดับเครดิตได้เช่นกัน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ