บล.โกลเบล็ก คาด SET สัปดาห์นี้ผันผวนในกรอบ 1,730-1,770 จุด ติดตามผลประชุมเฟด-ประมูลแหล่งปิโตรเลียมในไทย

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday September 24, 2018 14:21 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก (GBS) กล่าวว่า ตลาดหุ้นในสัปดาห์นี้ให้ความสำคัญกับการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะคาดว่าจะมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 2.25% และการส่งสัญญาณการขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ ประกอบกับ สหรัฐและจีนเดินหน้าตามแผนเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่อกันเริ่มมีผล 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่จีนปฏิเสธการเข้าร่วมเจรจาการค้ากับสหรัฐ

ส่วนได้รับปัจจัยบวกจากแนวโน้มราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความกังวลอุปทานอาจตึงตัวหลังกลุ่มโอเปกและผู้ผลิตนอกกลุ่มโอเปกยังไม่เห็นความจำเป็นต้องเพิ่มกำลังการผลิต และตัวเลขการส่งออกเดือน ส.ค.61 โต 6.68% ดีกว่าคาดที่ระดับ 4.5-4.75% ส่งผลให้ยอดการส่งออกในช่วง 8 เดือนแรกของปี 61 โต 10.03% สูงกว่าเป้าของกระทรวงพาณิชย์ที่ระดับ 9% อีกทั้งการเลือกตั้งที่มีความชัดเจนขึ้นเป็นลำดับทำให้พรรคการเมืองมีความเคลื่อนไหวในการประชุมพรรค

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาต่อปัจจัยต่าง ๆ อาทิ วันที่ 25 ก.ย.กระทรวงพลังงานเปิดให้เอกชนยื่นข้อมูลเสนอประมูลแหล่งปิโตรเลียมเอราวัณ และบงกช และธนาคารกลางญี่ปุ่นเปิดเผยรายงานการประชุม 25-26 ก.ย.นี้กำหนดการประชุมเฟด ส่วนวันที่ 28 ก.ย. ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปทง) จะรายงานภาวะเศรษฐกิจไทย

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก ประเมิน ทิศทางตลาดหุ้นไทยผันผวนอยู่ในกรอบ 1,730-1,770 จุด ดังนั้นแนะนำกลยุทธ์การลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคารได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นที่ความต้องการสินเชื่อเร่งตัวขึ้น แนะนำ BBL, KBANK, SCB, KTB และ KKP รองลงมาหุ้นกลุ่มรับเหมาก่อสร้างได้ประโยชน์จากการเร่งประมูลเมกะโปรเจกต์ แนะนำ CK และหุ้นใหญ่ที่ติดทั้งสองกลุ่มดัชนี DJSI World และ DJSI Emerging Markets แนะนำ KBANK, SCB, PTTEP, PTT, CPALL, PTTGC, SCC และ CPN

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ตลาดกำลังรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯในคืนวันอังคาร ซึ่งค่อนข้างแน่นอนแล้วว่าจะมีการปรับอัตราดอกเบี้ยขึ้น 0.25% แต่สิ่งที่นักลงทุนจับตาจะอยู่ที่ถ้อยแถลงหลังการประชุมของประธาน Fed และความเห็นของคณะกรรมการ FOMC โดยถ้าหากมีการส่งสัญญาณว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือน ธ.ค.นี้ตามที่ถูกคาดหมายไว้ จะมีผลลบต่อราคาทองคำทันทีจากทิศทางของเงินทุนที่ต้องการเข้าถือเงินสกุลดอลลาร์มากขึ้น

อย่างไรก็ตามราคาทองคำในประเทศจะได้รับผลบวกจากการอ่อนค่าของเงินบาทช่วยให้ทรงตัวได้ แต่ถ้า Fed ส่งสัญญาณไม่ชัดเจนว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกเป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้หรือไม่ จะหนุนให้ราคาทองคำกลับขึ้นไปยืนเหนือ 1,200 ดอลลาร์ แต่ราคาในประเทศจะถูกกระทบจากค่าเงินบาทที่แข็งสวนทางกับดอลลาร์

ดังนั้น คงคำแนะนำให้เล่นเก็งกำไรแบบ swing trade ในกรอบ 1,180–1,215 ดอลลาร์ และปรับมาเล่น breakout follow เมื่อราคาออกจากช่วงดังกล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ