(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ เล็งกลุ่มพลังงานหนุนหลังราคาน้ำมันดิบ Brent ทำ New High รอบเกือบ 4 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday September 25, 2018 09:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์รายย่อย บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะแกว่งไซด์เวย์เป็นไปได้ทั้งในแดนบวก-ลบ และยังมีโอกาสที่จะปรับฐานได้อยู่ เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมาดาวโจนส์ร่วงแรง ส่วนหนึ่งอาจผิดหวังเรื่องของสงครามการค้า ภายหลังจากที่จีนได้ส่งสัญญาณการยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าคงจะรอไปจนถึงหลังการเลือกตั้งของสหรัฐฯแล้วค่อยว่ากันอีกที อีกส่วนอาจเป็นผลจากที่มองว่า Valuation ตลาดสหรัฐฯสูงแล้ว จึงเป็นโอกาสที่จะขายทำกำไรออกมาบ้าง

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบ Brent ได้ขึ้นมาทำจุดสูงสุดในรอบเกือบ 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 2557 มายืนเหนือระดับ 81 เหรียญฯ/บาร์เรล ทำให้อาจไปช่วยหนุนหุ้นในกลุ่มพลังงาน และหนุนดัชนีฯได้ด้วย

ทั้งนี้ ตลาดฯยังรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่มีขึ้นในวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ และรอดูจะมีการทำ Window Dressing หรือไม่ก่อนปิดงบฯไตรมาส 3/61 ซึ่งก็คาดว่ารอบนี้ไม่น่าจะทำกันมาก เนื่องจากตลาดฯได้ปรับขึ้นไปมากแล้ว โดยดัชนีฯขึ้นมาราว 5% จึงไม่น่าจะเห็นทำ Window Dressing

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,745 จุด ส่วนแนวต้าน 1,757 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ก.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,562.05 จุด ร่วงลง 181.45 จุด (-0.68%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,919.37 จุด ลดลง 10.30 จุด (-0.35%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,993.25 จุด เพิ่มขึ้น 6.29 จุด (+0.08%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 11.92 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 22.41 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 12.85 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 10.74 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 2.03 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดทำการวันนี้ เนื่องในเทศกาลไหว้พระจันทร์, ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันขอบคุณพระเจ้า

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ก.ย.61) 1,749.42 จุด ลดลง 6.70 จุด (-0.38%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 726.02 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ก.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ต.ค.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ก.ย.61) ปิดที่ 72.08 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ หรือ 1.8%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ก.ย.61) ที่ 6.09 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.41 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอดูผลประชุมเฟด-สงครามการค้าสหรัฐฯและจีน
  • "พลังงาน" เปิดให้ยื่นซอง ประมูลแหล่งเอราวัณ-บงกช วันนี้ (25 ก.ย.) สร้างความมั่นคงพลังงาน ลั่นทุกขั้นตอนโปร่งใส พร้อมสร้างความเข้าใจกับทุกฝ่าย ด้าน 3 องค์กร ตบเท้าเข้าพบ "ศิริ" หนุนประมูล ส.อ.ท.ห่วงชะงักฉุดลงทุนอีอีซี ด้านกลุ่มต้าน ปักหลักชุมชนทำเนียบเรียกร้องรื้อ "ทีโออาร์" หันใช้ระบบจ้างผลิต
  • แบงก์ชาติเตรียมเรียกสถาบันการเงินหารือคุมเข้มสินเชื่อที่อยู่อาศัย ก่อนเกิดฟองสบู่ พร้อมให้ความมั่นใจเฟดขึ้นดอกเบี้ยรอบนี้ ไม่กระทบตลาดเงินและตลาดทุน เหตุมีการรับรู้ล่วงหน้าแล้ว แต่ยังต้องจับตาความผันผวนจากสงครามการค้า มั่นใจเสถียรภาพระบบการเงินไทยแกร่ง รับมือผลกระทบได้
  • ตลาดหลักทรัพย์ เผย บจ.ที่ทำธุรกิจในกลุ่มซีแอลเอ็มวี ผลดำเนินงานโดดเด่น สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด โดย 31 บริษัท กวาดกำไรสุทธิรวม 1.7 แสนล้าน ขณะ มาร์เก็ตแคป ร่วม 4.4 ล้านล้าน
  • ธปท.จับตาค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่องจากเงินไหลเข้า ไม่หวั่นเฟดขึ้นดอกเบี้ยขึ้นอีก ส่งผลส่วนต่างดอกเบี้ยห่างเป็น 0.75%

*หุ้นเด่นวันนี้

  • VGI-W2 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญบมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,711,334,815 หน่วย อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิ : 1 หุ้นสามัญใหม่ ราคาการใช้สิทธิ 10 บาทต่อหุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิ 4 ปี นับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ (11 กันยายน 61) ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาทต่อหน่วย กำหนดวันใช้สิทธิครั้งแรก 28 ก.ย. 2561 ส่วนวันใช้สิทธิครั้งสุดท้าย 9 ก.ย. 2565
  • ATP30 (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 2.30 บาท คาดกำไร Q3/61 โตทั้ง Q-Q, Y-Y และทำจุดสูงสุดใหม่ จาก High Season ที่มีวันหยุดไม่มาก และการเริ่มให้บริการลูกค้าใหม่อย่าง Mega Bangna ด้วยรถ Shuttle Bus 6 คัน และ SPRC ด้วยรถตู้ 10 คัน บวกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่จะเร่งขึ้นจาก Economy of Scale พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2561 +54% Y-Y เป็น 40 ลบ. และ +16% Y-Y เป็น 47 ลบ. ในปี 2562 โดยลูกค้าใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ แต่ PE กลับอ่อนตัวลง โดย PE2561 อยู่ที่ 24 เท่า และจะลดลงเหลือ 21 เท่าในปี 2562 ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตั้งแต่เข้าตลาดที่ 32 เท่า
  • SVI (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 6.3 บาท ราคาปรับตัวลงเป็นโอกาสทยอยซื้อ คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วตั้งแต่ Q1/61 และจะเห็นการเติบโตต่อเนื่องอีกใน Q3/61 และ Q4/61 จากยอดขายและมาร์จิ้นที่เพิ่มขึ้น
  • CPALL (กสิกรไทย) "ซื้อ"เป้า 80.50 บาท แม้คาดว่าไตรมาส 3/2561 จะเป็นอีกไตรมาสที่กำไรสุทธิของ CPALL จะอ่อนตัว แต่คาดว่าอัตราเติบโตเฉลี่ยของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) จะยังอยู่ในแนวบวก อย่างไรก็ดีคาดว่ากำไรสุทธิจะฟื้นตัวขึ้นในไตรมาส 4/2561 หนุนจากบรรยากาศการบริโภคที่ดีขึ้นตามการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับผู้มีรายได้ระดับต่ำและ ความคาดหวังต่อการเลือกตั้งที่จะมาถึง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ