(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้แกว่งไซด์เวย์ ทิศทางเดียวกับตลาดภูมิภาค รอลุ้นผลประชุมเฟดคืนนี้

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday September 26, 2018 09:23 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าแกว่งไซด์เวย์ในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เคลื่อนไหวไซด์เวย์อิงในทางบวกเล็กน้อยราว 0.4% โดยคาดว่าหุ้นในกลุ่มพลังงานจะเด่นและช่วยประคองตลาดฯได้ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ได้ขึ้นสูงสุดในรอบ 4 ปี

นอกจากนี้ ตลาดฯก็กำลังรอดูผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะสิ้นสุดการประชุมในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยตลาดฯคาดว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ขณะเดียวกันให้ติดตามการส่งสัญญาณเกี่ยวกับทิศทางราคาน้ำมันดิบในช่วงที่เหลือของปีนี้ด้วย

ทั้งนี้ หลังจากที่ตลาดฯรับรู้ผลการประชุมเฟดแล้วก็คาดว่าตลาดฯจะเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งตลาดบ้านเรามีปัจจัยหนุนจากปัจจัยในประเทศในเรื่องความคืบหน้าการเลือกตั้ง และเศรษฐกิจที่ขยายตัวดี ส่วนประเด็นสงครามการค้า ตลาดไม่ได้ให้น้ำหนักมาก

พร้อมให้แนวรับ 1,740 จุด ส่วนแนวต้าน 1,755 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (25 ก.ย.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 26,492.21 จุด ลดลง 69.84 จุด (-0.26%), ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,915.56 จุด ลดลง 3.81 จุด (-0.13%) ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,007.47 จุด เพิ่มขึ้น 14.22 จุด (+0.18%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 93.66 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 4.18 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง เพิ่มขึ้น 107.42 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 4.77 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 12.73 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 5.47 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 10.44 จุด

ส่วนตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดทำการวันนี้ เนื่องในวันหยุดชดเชย

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (25 ก.ย.61) 1,747.99 จุด ลดลง 1.43 จุด (-0.08%)
  • นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,001.64 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 ก.ย.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน พ.ย.ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (25 ก.ย.61) ปิดที่ 72.28 ดอลลาร์/บาร์เรล เพิ่มขึ้น 20 เซนต์ หรือ 0.3%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (25 ก.ย.61) ที่ 5.71 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.42 แนวโน้มทรงตัวในกรอบ 32.35-32.50 รอดูทิศทาง-ถ้อยแถลงเฟด
  • ประมูล 2 แหล่งก๊าซเอราวัณ-บงกช แข่งเดือด ปตท.สผ.หันจับมือ มูบาดาลา แทนโททาล ท้าชิงแหล่งเอราวัณ ส่วนแหล่งบงกช ปตท.สผ.โดดแข่งเดี่ยว ขณะที่เชฟรอนฯผนึกกำลังเหนียวแน่น มิตซุยฯ ท้าแข่งทั้ง 2 แหล่ง ด้านกรมเชื้อเพลิงฯ ขอเวลา 2 เดือน ก่อนชง ครม.เคาะชื่อผู้ชนะ ธ.ค.นี้ คาดเกิดเม็ดเงินลงทุน 1.2 ล้านล้านบาท นายกฯยืนยันรัฐได้ประโยชน์มากขึ้น
  • "สทท." ปรับเป้าตัวเลข นักท่องเที่ยวต่างชาติปี 61 อยู่ที่ 37.19 ล้านคน ร่วงจาก 39 ล้านคน ฉุดรายได้ต่ำกว่า 2 ล้านล้านบาท เหตุยอดตลาดจีนหล่นวูบ คาดไตรมาส 4 มาไทย 1.85 ล้านคน ลดลง 25% ลุยผนึก "แอตต้า" ยื่นหนังสือรมว.ท่องเที่ยว สัปดาห์หน้าใช้ยาแรงมาตรการด้านวีซ่า 3 ทางเลือก เว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ขอวีซ่า ครั้งเดียวเดินทางได้สองครั้ง และลด ค่าธรรมเนียมตรวจลงตราฯ เหลือพันบาท ฟื้นตลาดจีนใน 6 เดือน
  • ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยถึงดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) ประจำเดือนสิงหาคม 2561 ขยายตัว 0.66% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการขยายตัวเป็นบวกติดต่อกันเป็นเดือนที่ 16 โดย 8 เดือนแรกของปี 2561 เอ็มพีไอขยายตัว 3.6% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนขยายตัว
  • "ภากร"เสนอ ไอเดียตั้ง "กองทุนฉุกเฉิน" ช่วย สภาพคล่องนักลงทุน-แบงก์ สกัดวิกฤติตลาดหุ้น แนะตั้งหน่วยงานกลางช่วยเติมสภาพคล่องให้ตลาดทุนกรณีราคาหุ้นตกเร็วและแรง ป้องกันผลกระทบ เป็นวงกว้าง
  • กทพ.ฟุ้งคลังเปิดทางหนุนหาช่องทางระดมทุนเพิ่ม หลังกองทุน TFF ผลตอบรับดี เดินหน้าอีก 2 โครงการเพื่อสนับสนุนกับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)

*หุ้นเด่นวันนี้

  • PTTGC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 110 บาท แนวโน้มกำไร Q3/61 ที่ชะลอจากการปิดซ่อมเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้หมดแล้ว คาดว่า Q4/61 จะเร่งตัวขึ้นยาวไปถึง Q1/62 จาก (1) โรงงานกลับมาผลิตได้ตามปกติ (2) GRM ฟื้นตัวรับ High Season ปลายปี (3) มาร์จิ้นสายอะโรเมติกส์เพิ่มขึ้นจากการผลิตสินค้าปลายน้ำ เช่น PTA และ PET พร้อมคาดกำไรสุทธิปี 2561 +9.5% Y-Y เป็น 4.3 หมื่นล้านบาท และ +7% Y-Y เป็น 4.6 หมื่นล้านบาท ในปี 2562 ด้านราคาหุ้นตอนนี้ยังไม่แพง PE แค่ 8.5 เท่า และปันผลสูง 5.4% โดยระยะสั้นจะได้แรงหนุนเพิ่มเติมหาก GGC สามารถแก้ไขปัญหาสินค้าคงคลังหายได้ภายใน 30 ก.ย. นี้
  • MINT (กรุงศรี) "ซื้อ"เป้า 43 บาท Q3/61 คาดกำไรโตต่อเนื่อง จาก high season ของธุรกิจโรงแรมในยุโรป (Tivoli ในโปรตุเกส และ NH Hotel ) ขณะที่ Q4/61 เข้าสู่ high season ของธุรกิจโรงแรมในไทย
  • CPF (เอเอสแอล) "ซื้อ"เป้า 29.45 บาท คาดว่ารายได้จากในประเทศจะเริ่มมีการฟื้นตัวใน H2/61 จากราคาเนื้อสัตว์ที่เริ่มฟื้นตัว โดยจะมาจากผลดำเนินงานที่ดีขึ้นของธุรกิจสุกรในเวียดนามที่กลับสู่ภาวะปกติตั้งแต่ไตรมาส Q2/61 รวมทั้งธุรกิจสัตว์น้ำที่มียอดขายเติบโตดีทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนให้ผลประกอบการขยายตัวตามเป้าหมายที่ตั้งเป้าไว้ 5 -8% ได้ ด้านการลงทุนสร้างโรงงานแปรรูปไก่ครบวงจรมูลค่า 200 -250 ล้านเหรียญ สรอ. ที่เวียดนาม คาดว่าจะสร้างเสร็จช่วงปลายปี 2562 และสามารถพร้อมส่งออกไก่ได้ทันที โดยวางเป้าหมายลูกค้าไว้ที่กลุ่มภูมิภาคเอเชีย ส่งผลให้ผลประกอบการ ของต่างประเทศจะขยายตัวขึ้นในปี 2563

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ