CKP ปรับเป้ารายได้รวมปี 61 โต 15% จากเดิมโต 10% มั่นใจกำไรสูงขึ้น,ผลงาน Q3/61 โตเด่นจากน้ำงึม 2 มีปริมาณน้ำมาก

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday October 2, 2018 14:29 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางมัณฑนา เอื้อกิจขจร รองกรรมการผู้จัดการ งานวางแผนธุรกิจ บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP) เปิดเผยกับ"อินโฟเควสท์"ว่า บริษัทคาดว่าผลประกอบการในไตรมาส 3/61 จะเติบโตกว่าในไตรมาส 3/60 (YoY) และดีกว่าไตรมาส 2/61 เนื่องจากในช่วงนี้ปริมาณน้ำในเขื่อนน้ำงึม 2 มีจำนวนมากทำให้สามารถผลิตไฟฟ้าได้มากขึ้น

ดังนั้น บริษัทจึงได้ปรับประมาณการรายได้ในปีนี้ จากเดิมคาดรายได้เติบโต 10% เป็นเติบโต 15% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 6.96 พันล้านบาท และมั่นใจว่ากำไรสุทธิจะดีกว่าปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 159 ล้านบาท โดยในปีนี้บริษัทรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม บางปะอินโคเจนเนอเรชั่น (BIG2)

"ปีนี้ ของเราเติบโตมาก หลักๆมาจากน้ำงึม 2 ที่น้ำเยอะมาก เราปรับเป้ารายได้โต 15% จากก่อนหน้านี้ตั้งเป้าโต 10% นอกจากนี้ BIG2 เราก็รับรู้เต็มปี"นางมัณฑนา กล่าว

ทั้งนี้ CKP ถือหุ้นในบริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น (โครงการ 1) กำลังการผลิต 117.5 เมกะวัตต์ และ บริษัท บางปะอิน โคเจนเนอเรชั่น (โครงการ 2) สัดส่วน 65% ในแต่ละบริษัท ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำงึม 2 ที่บริหารภายใต้บริษัท เซาท์อีสท์ เอเซีย เอนเนอจี จำกัดนั้น CKP ถือหุ้น 56% ขนาดกำลังการผลิต 615 เมกะวัตต์

นางมัณฑนา กล่าวว่า โรงไฟฟ้าน้ำไซยะบุรีที่มีกำลังการผลิต 1,285 เมกะวัตต์ภายใต้การบริหารบริษัท ไซยะบุรี พาวเวอร์ จำกัด CKP ถือหุ้น 37.5% นั้น บริษัทยังคงแผนเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) ในเดือน ต.ค. 62 โดยในไตรมาส 4 ปีนี้จะเริ่มทดลองเดินเครื่อง Commissioning unit 1

สำหรับกรณีที่ราคาหุ้น CKP ปรับตัวสูงสุดที่ 5.45 บาท เมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น นางมัณฑนา กล่าวว่า ถือว่าเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท โดยวานนี้ราคา CKP ย่อลงมาอยู่ที่ 5.25 บาท ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วงนี้หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะกลุ่มโรงไฟฟ้าได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ