นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บลจ.กรุงไทย (KTAM) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ในระหว่างการเปิดจำหน่าย กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 205( KTFF205) เสนอขายตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 24 ต.ค.61 อายุโครงการ 12 เดือน โดยผู้ลงทุนจะได้รับผลตอบแทนประมาณ 1.85% ต่อปี โดยบุคคลธรรมดาไม่เสียภาษีหัก ณ ที่จ่าย
กองทุนดังกล่าวเน้นลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ประกอบด้วย เงินฝากประจำของ Agricultural Bank of China, Bank of China, China Construction Bank Asia, AL Khalij Commercial Bank, Commercial Bank PQSC, Qatar National Bank บัตรเงินฝาก Industrial and Commercial Bank of China, China Merchanyts Bank, Bank of Communacations และ MTN ของ Mashreq Bank
สำหรับอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้ในประเทศ ตราสารอายุคงเหลือต่ำกว่า 10 ปี อัตราผลตอบแทนปรับตัวเพิ่มขึ้น ตามความกังวลเกี่ยวกับปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยสัปดาห์ที่ผ่านมานักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิจำนวน 4,900 ล้านบาท ล่าสุดอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 4 bps. มาอยู่ที่ 2.00% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2 bps.มาอยู่ที่ 2.43% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 2 bps. มาอยู่ที่ 2.85% ต่อปี
ส่วนอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอเมริกามีการปรับตัวลดลงเกือบทุกช่วงอายุตามกระแส Risk off ในตลาดหุ้นจากความกังวลว่า Bond Yield ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาจากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งขึ้นดอกเบี้ย ในขณะที่เกิดแรงซื้อกลับจากการที่อัตราผลตอบแทนปรับตัวขึ้นมาแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยอัตราผลตอบแทนของตราสารหนี้อายุคงเหลือ 2 ปี ปรับตัวลดลง 3 bps. มาอยู่ที่ 2.85% ต่อปี อายุคงเหลือ 5 ปี ปรับตัวลดลง 7 bps. มาอยู่ที่ 3.00% ต่อปี และอายุคงเหลือ 10 ปี ปรับตัวลดลง 8 bps. มาอยู่ที่ 3.15% ต่อปี
อย่างไรก็ตาม กองทุน KTFF205 เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการโอกาสความแน่นอนของผลตอบแทนตามที่ได้กำหนดไว้