SONIC พร้อมเทรดวันแรกพรุ่งนี้รับปัจจัยบวกหนุนผลงานโตต่อเนื่อง รักษาอัตรากำไรสุทธิ 5% กำไรขั้นต้น 21-22%

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday October 18, 2018 14:41 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายสันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.โซนิค อินเตอร์เฟรท (SONIC) เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนในการเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันพรุ่งนี้ หลังจากที่บริษัทได้เดินทางโรดโชว์มาหลายจังหวัด ประกอบกับผลประกอบการมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง โดยรายได้เฉลี่ย 3 ปี ย้อนหลังมีการเติบโตราว 5% และในช่วงครึ่งปีแรกนี้รายได้เติบโตแล้วถึง 16%

SONIC เสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) จำนวน 150 ล้านหุ้น ที่ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.95 บาท ระหว่างวันที่ 8-10 ต.ค. โดยบริษัทมีแผนระดมทุนเพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ ในปี 62

ทั้งนี้ ด้วยจุดแข็งการดำเนินงานที่บริษัทเป็นผู้ให้บริการจัดการระบบโลจิสติกส์แบบครบวงจร โดยมีการให้บริการด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศที่ครอบคลุมทั้งทางอากาศ ทางทะเล และทางบกไปยังประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย รวมถึงแผนงานในอนาคต ทำให้ SONIC มีขีดความสามารถการแข่งขันเหนือคู่แข่ง ตลอดจนการมีเครือข่ายพันธมิตรทั่วโลก ส่งผลดีต่อการให้บริการที่สามารถผสมผสานการให้บริการขนส่งหลายรูปแบบและมีความต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการใช้บริการด้านการขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้าได้เป็นอย่างดี

"แม้ว่าเป็นช่วงที่ตลาดฯไม่ดีนัก มีผันผวนสูง แต่อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาบริษัทมีการเติบโตมาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะเป็นช่วงที่มีวิกฤตเศรษฐกิจก็ตาม และที่ผ่านมาได้เดินทางโรดโชว์นักลงทุนก็ให้การตอบรับเป็นอย่างดี เนื่องจากเราเป็นบริษัทที่ให้บริการขนส่ง ซึ่งอิงกับการส่งออกที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ที่ปรึกษาทางการเงินเองตั้งราคา IPO ไว้ไม่สูงนัก และมีมีส่วนลดให้กับนักลงทุนด้วย"นายสันติสุข กล่าว

บริษัทยังคงมั่นใจว่าจะรักษาระดับอัตรากำไรสุทธิที่ 5% และอัตรากำไรขั้นต้นที่ 21-22% โดยการให้บริการลูกค้าเป็นแบบขึ้นลงตามต้นทุน และเป็นสัญญาระยะสั้นส่วนใหญ่ ในขณะเดียวกันบริษัทรับเงินเป็นสกุลเงินบาท ซึ่งจะไม่ได้รับผลกระทบความผันผวนจากค่าเงิน บริษัทจึงเชื่อว่าจะรักษาระดับการทำกำไรได้

สำหรับความเสี่ยงเกี่ยวกับสงครามทางการค้าระหว่างประเทศจีนและสหรัฐนั้น บริษัทมองว่าจะเป็นผลดีต่อธุรกิจ เนื่องจากก่อนที่ประเทศจีนจะเปิดประเทศและสามารถส่งสินค้าไปขายในประเทศสหรัฐได้นั้นก็ได้ขนส่งสินค้าผ่านประเทศต่างๆในอาเซียน และที่ผ่านมาก็จะเห็นว่านักลงทุนจากประเทศจีนมีการย้ายฐานการผลิตมายังประเทศต่างๆในอาเซียนด้วย จึงมองว่าปัจจัยนี้ก็จะมาช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทได้

ส่วนเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้น IPO บริษัทนำเงินไปใช้ลงทุนในโครงการต่าง ๆ ได้แก่ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ 20 ล้านบาท พัฒนาศูนย์รวบรวมและกระจายสินค้า 60 ล้านบาท ซื้อที่ดินและอาคารสำหรับอาคารสาขา 60 ล้านบาท ซื้อรถขนส่งสำหรับธุรกิจขนส่งทางบก 60 ล้านบาท และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน 76.19 ล้านบาท


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ