นายอุปกิต ปาจรียางกูร ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ยูไนเต็ด เพาเวอร์ ออฟ เอเชีย (UPA) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจในครึ่งปีหลังของ UPA ถือว่ามีสัญญานที่ดี จากการทยอยจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ (COD) ของโครงการโรงไฟฟ้าสหกรณ์ฯ ที่มีอยู่ในมือแล้ว และน่าจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือน พ.ย.นี้เป็นต้นไปทั้ง 3 โครงการ โดยมีกำลังการผลิตรวม 7.95 เมกะวัตต์ และมีอัตรารับซื้อไฟฟ้าอยู่ที่ 4.12 บาทต่อหน่วยเป็นระยะเวลา 25 ปี ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้ประมาณ 48 ล้านบาทต่อปี
ส่วนสัญญาการซื้อขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าขนาด 200 เมกะวัตต์ในเมียนมาร์ จากการลงทุนผ่าน บริษัท เมียนมาร์ ยูพีเอ จำกัด (MUPA) คาดว่าน่าจะได้รับอนุมัติจากกระทรวงไฟฟ้าและพลังงานของพม่า (MOEE) ในเร็วๆนี้ รวมทั้งอยู่ระหว่างการมองหาโอกาสศึกษาธุรกิจพลังงาน ด้านอื่นๆ เพิ่มเติมทั้งในประเทศและต่างประเทศอีกด้วย ดังนั้น จึงเชื่อว่าจะทำให้บริษัทมีรายได้ที่ดี มั่นคง แข็งแกร่ง ยั่งยืนในระยะยาวและกลับมามีแนวโน้มที่ดีได้ภายในปีนี้
ทั้งนี้ ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 ต.ค.ที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 10/2561 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของ บริษัท อินฟอร์เมติกซ์ พลัส จำกัด (บริษัทย่อย) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้นสัดส่วน 99.9997% ของทุนจดทะเบียน โดยทำการเพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 382,074,180 บาท จากทุนจดทะเบียนเดิม จำนวน 20,000,000 บาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ จำนวน 402,074,180 บาท
บริษัทจะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 38,207,418 หุ้น มีมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท และนำไปจัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นของบริษัทย่อยตามสัดส่วนการถือหุ้น ในราคาหุ้นละ 10 บาท โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินของบริษัทย่อย ซึ่งจะนำเงินไปชำระคืนหนี้ รวมทั้งเป็นเงินทุนหมุนเวียนรองรับการเติบโตของบริษัทในอนาคต