(เพิ่มเติม) SIRI ผนึก"เดอะสแตนดาร์ด" เปิดตัวโรงแรม-เรซิเดนซ์แห่งแรกในไทย พร้อมกางแผนรุกเปิด 20 แห่งทั่วโลกภายใน 5 ปี

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday November 6, 2018 14:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บมจ.แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทเปิดตัวโรงแรมเดอะสแตนดาร์ด (The Standard Hotel) และสแตนดาร์ด เรซิเดนซ์ (Standard Residences) ในประเทศไทยอันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายสาขาทั่วโลก พร้อมเปิดตัว One Night แอพพลิเคชั่นจองโรงแรมภายในวันเดียวกับที่พัก ซึ่งขยายขอบข่ายการบริการสู่เอเชียเป็นครั้งแรกที่กรุงเทพฯ เพื่อต่อยอดหลังการประกาศวิสัยทัศน์ในการก้าวสู่ธุรกิจโรงแรม เทคโนโลยี และไลฟ์ สไตล์ระดับโลก ผ่านการลงทุนมูลค่า 80 ล้านดอลลาร์ หรือ 2,640 ล้านบาท

โดย The Standard ตั้งเป้าขยายสาขาโรงแรมทั่วโลกเพิ่มขึ้น 2 เท่า จาก 5 สาขาในปัจจุบันเป็น 10 สาขาภายใน 1 ปี และขยายเพิ่ม 2 เท่าอีกครั้งเป็น 20 สาขาภายใน 5 ปี ขณะที่ One Night เริ่มรุกสู่ตลาดเอเชียซึ่งมีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจสูง โดยเริ่มเปิดให้บริการที่กรุงเทพฯ แล้วเป็นแห่งแรก

"เมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2560 เราได้ประกาศแผนการลงทุนในแบรนด์ระดับโลกมากมาย ซึ่งล้วนเป็นผู้นำในธุรกิจโรงแรม เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ การลงทุนนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขยายฐานความรู้และการสร้างพันธมิตรในประเภทธุรกิจอื่นที่หลากหลายออกไปนอกเหนือจากด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ เป็นเรื่องน่ายินดีที่ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปี การลงทุนครั้งนี้ได้ช่วยขับเคลื่อนให้ The Standard และแอพพลิเคชั่น One Night เติบโตในอัตราที่รวดเร็ว ซึ่งวันนี้ทั้งสองแบรนด์พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจสู่ตลาดเอเชียอย่างแข็งแกร่ง โดยมีประเทศไทยเป็นเป้าหมายแห่งแรก"นายอภิชาติ กล่าว

นายอภิชาติ กล่าวว่า บริษัทได้เข้าถือหุ้นในสัดส่วน 35% ใน Standard International, LLC (The Standard) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ คิดเป็นมูลค่า 58 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1,900 ล้านบาท โดยเตรียมพัฒนาโครงการโรงแรม The Standard แห่งแรกที่ภูเก็ต และยังมีแผนจะพัฒนาโครงการ Standard Residences ร่วมกัน ซึ่งจะส่งผลทำให้บริษัทมีรายได้ประจำที่แข็งแกร่ง โดยตั้งเป้ารายได้ประจำในภาพรวมไว้ที่ 5-10% อีกทั้งยังคาดหวังมีผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ที่ประมาณ 15-20%

The Standard มีโรงแรมทั้งหมด 6 แห่งในปัจจุบันและห้องพักรวมกันกว่า 1,200 ห้อง (รวมโรงแรมแห่งใหม่ที่จะเปิดในลอนดอน) The Standard สามารถสร้างรายได้ปีละประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ หรือ 6,600 ล้านบาท มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย 85% มีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักเติบโต 121% โดยทุกสาขามีอัตราที่ใกล้เคียงกัน อีกทั้ง The Standard ยังตั้งเป้าขยายสาขาสู่ตลาดใหม่ ๆ โดยอาศัยทีมงานที่มีคุณภาพ ความเชี่ยวชาญ ในการสร้างสรรค์โปรแกรมและกิจกรรมที่เน้นการสะท้อนวัฒนธรรมในรูปแบบต่าง ๆ การคัดสรรพาร์ทเนอร์ และการสร้างสรรค์งานอีเวนต์ที่ไม่ซ้ำใคร เพื่อเชื่อมโยงชุมชนและสังคมท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวจากทั่วโลก เข้าด้วยกัน

ทั้งนี้ ได้ปักหมุดขยาย 10 สาขาทั่วโลก โดยมี 2 สาขาที่ประเทศไทย ที่จะเปิดบริการภายในอนาคตอันใกล้ ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนธุรกิจ 5 ปีที่จะขยายสาขาให้ครบ 20 แห่ง ทั้งในโลเคชั่นที่อยู่ในพื้นที่ใจกลางเมือง และเมืองตากอากาศชั้นนำทั่วโลก ได้แก่ ลอนดอน ซึ่งจะเปิดในไตรมาส 1/62 ตามด้วย ปารีส มิลาน เบอร์ลิน ลิสบอน ปราก แมดริด ชิคาโก ลาสเวกัส นิวออร์ลีนส์ แอตแลนต้า ดูไบ สิงคโปร์ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน กรุงเทพฯ ภูเก็ต หัวหิน จาการ์ตา และบาหลี โดยเมืองเป้าหมายทั้งหมดข้างต้นล้วนแล้วแต่เป็นทำเลที่ The Standard มีแผนดำเนินการพัฒนาโรงแรมที่เป็นรูปธรรมแล้ว หรือมีความคืบหน้าในขั้นตอนเจรจาตกลง

นอกจากนี้ SIRI ยังเปิดตัว One Night แอพพลิเคชั่นจองโรงแรมภายในวันเดียวกับที่เข้าพัก โดยตัวแอพพลิเคชั่นดังกล่าวยังมีข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรมที่น่าสนใจบริเวณรอบโรงแรมอีกด้วย โดยเป็นการเริ่มรุกสู่ตลาดเอเชีย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจสูง โดยเริ่มเปิดให้บริการที่กรุงเทพฯ แล้วเป็นแห่งแรก

One Night เปิดตัวในกรุงเทพฯ ได้รวบรวมโรงแรมจำนวน 16 แห่ง ประกอบด้วย โรงแรมอาคิระ สุขุมวิท, โรงแรมอาคิระ ทองหล่อ, แบงค็อก ริเวอร์ไซด์, ปาเฮ่า เกสต์เฮาส์ เยาวราช, โรงแรมคาโบชอง, โรงแรมดิโอกุระ เพรสทีจ กรุงเทพฯ, ริว่าอรุณ, ริวา เซอร์ยา, เซี่ยงไฮ้แมนชั่น, เดอะสยาม, สยามแอทสยาม, โรงแรมสุโขทัย, โรงแรม เดอะ สุโกศล, 137 พิลล่าร์ สวีท แอนด์ เรสซิเด้นซ์, โรงแรมอำแดง, จอช โฮเทล และวันเดย์ โฮสเทล ซึ่งลูกค้าของบริษัทสามารถรับสิทธิพิเศษสำหรับการจองโรงแรมในกรุงเทพฯผ่านแอพพลิเคชั่น One Night ได้ระหว่างวันนี้ – 30 พ.ย.61 ด้วยส่วนลดพิเศษ 1,000 บาท สำหรับลูกค้า Sansiri Family และส่วนลด 1,500 บาทสำหรับลูกค้า Siri Priority

ขณะเดียวกัน One Night ยังได้เปิดให้บริการแล้วในอีก 15 เมืองหลักในสหรัฐอเมริกา และลอนดอน ครอบคลุมโรงแรมอิสระกว่า 170 แห่ง และมีแผนขยายขอบข่ายให้ครอบคลุม 30 เมืองทั่วโลก รวมทั้งในเอเชีย และยุโรป ภายในสิ้นปี 63

"การร่วมเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์กับแบรนด์ที่แข็งแกร่งและโดดเด่น จะช่วยส่งเสริมธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของเรา ผู้บริโภคจะได้รับประโยชน์จากการเข้าถึงบริการจากผู้นำธุรกิจระดับโลกอย่างแท้จริง การเปิดตัว The Standard และ One Night ในประเทศไทยคืออีกก้าวสำคัญของเรา ที่จะนำไปสู่สิ่งใหม่ ๆ อีกมากมายในอนาคต" นายอภิชาติ กล่าว

นายอามาร์ ลาลวานี ซีอีโอ Standard International กล่าวว่า การขยายแบรนด์ The Standard ไปสู่พื้นที่ใหม่ ๆ ทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย ถือเป็นโอกาสสำคัญในการส่งมอบประสบการณ์การเข้าพักในโรงแรมที่มีเอกลักษณ์และโดดเด่น สู่ผู้คนอีกมากมาย สร้างสรรค์พื้นที่ให้มีความสอดคล้องกลมกลืนกับวัฒนธรรรมเฉพาะตัวของแต่ละท้องถิ่นที่โรงแรมตั้งอยู่ ผ่านการออกแบบพื้นที่ใช้สอยและการสร้างประสบการณ์ที่หาไม่ได้จากที่อื่นให้กับทั้งแขกที่มาพักและผู้คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่นั้น ๆ

"สำหรับประเทศไทย เรามีแผนเปิดโรงแรม The Standard แห่งแรกที่ภูเก็ต ซึ่งนอกจากโรงแรมแล้ว ยังมี Standard Residences ซึ่งเราพัฒนาขึ้นเป็นครั้งแรกภายใต้ความร่วมมือกับแสนสิริ ประเทศไทยเป็นตลาดที่มีความน่าสนใจทั้งในเรื่องของสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่น่ามาเยี่ยมเยือน รวมถึงจำนวนของนักท่องเที่ยวที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี จึงเป็นทำเลที่เหมาะสมสำหรับการเปิดตัวแบรนด์ The Standard ไม่ว่าจะเป็นความโดดเด่นในด้านอาหารการกินชั้นเลิศ แวดวงแฟชั่น และศิลปะ เมื่อประกอบเหตุผลต่าง ๆ เข้าด้วยกัน เราจึงตัดสินใจเลือกกรุงเทพฯ เป็นที่ตั้งสำนักงาน ประจำภูมิภาคของเราเพื่อดูแลการดำเนินธุรกิจทั้งหมดในแถบเอเชียและตะวันออกกลาง"นายอามาร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ