INTUCH รับรายได้ปีนี้ลดลง หลัง THCOM ขาย CSL แต่มั่นใจกำไรสุทธิยังโต

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday November 8, 2018 13:40 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวทมยันตรี คงพูลศิลป์ รองกรรมการผู้อำนวยการส่วนงานการลงทุนสัมพันธ์ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ (INTUCH) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยอมรับรายได้ปีนี้ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนที่มีรายได้อยู่ที่ 2.25 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามรายได้ของ บมจ.ไทยคม (THCOM) ที่คาดว่าจะลดลง 14-15% เนื่องจากไทยคมได้มีการขายหุ้นของ บมจ.ซีเอส ล็อกซอินโฟ (CSL) ไปให้กับ บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (ADVANC) ส่งผลทำให้การรับรู้รายได้ปรับตัวลง โดย INTUCH มีสัดส่วนการถือหุ้นของTHCOM ราว 41.14%

ทั้งนี้ มองว่าไทยคมได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว และมี EBITDA เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 42% จากปีก่อนที่ 39% ซึ่งเป็นไปตามแผนที่ตั้งไว้ว่าจะมี EBITDA 40-45%

แม้ว่ารายได้จะลดลง แต่กำไรสุทธิยังเติบโตได้ดี เห็นได้จากกำไรสุทธิในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ สามารถทำกำไรเติบโต 8% มาอยู่ที่ 9.6 พันล้านบาท เป็นไปตามการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนใน ADVANC โดย ADVANC ถือว่ายังมีการเติบโตดี แม้ก่อนหน้านี้จะมีการปรับลดเป้าหมายรายได้ค่าบริการไม่รวมค่าเชื่อมโยงโครงข่ายและค่าเช่าเครื่องและอุปกรณ์ เติบโต 3.5-4.5% จากเดิมที่คาดโต 5-7% เพื่อสะท้อนภาพของการแข่งขันในเรื่องของค่าบริการอินเตอร์เน็ตและ Voice ที่ต้องตั้งราคาถูกลง

สำหรับการลงทุนในรูปแบบเวนเจอร์แคปปิตอล (Ventures Capital) ในปีนี้บริษัทฯ คาดว่าจะลงทุนเพิ่มอีก 2 บริษัท ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างรออนุมัติ คาดว่าจะเห็นการเข้าลงทุนดังกล่าวในไตรมาส 4/61 โดยในปี 61 บริษัทฯ ได้มีการอนุมัติ Ventures Capital ไปแล้วราว 3-4 โปรเจค แต่ยังไม่ได้มีการประกาศออกมา ขณะเดียวกันบริษัทฯ ก็อยู่ระหว่างพิจารณาการเข้าลงทุนในบริษัทอื่นๆ อีกไม่น้อยกว่า 3 บริษัท จากปัจจุบันบริษัทฯ มีการลงทุนกับบริษัทภายใต้โครงการดังกล่าวไปแล้วทั้งสิ้น 16 บริษัท และขายไปแล้วจำนวน 2 บริษัท

บริษัทฯ ได้ตั้งงบลงทุนในธุรกิจ Venture Capital ราว 200 ล้านบาทต่อปี โดยในปี 61 บริษัทฯได้ใช้เงินไปแล้วกว่า 82 ล้านบาท ซึ่งโดยรวม 6 ปี บริษัทฯ มีการใช้เงินไปแล้วทั้งสิ้น 485 ล้านบาท โดยปัจจุบันมีมูลค่าเงินลงทุนอยู่ที่ 700 ล้านบาท หรือคิดเป็นการเติบโต 44%

ส่วนแผนการนำบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด (WONGNAI) และบริษัท วายดีเอ็ม (ไทยแลนด์) จำกัด เข้าจดทะเบียนตลาดหลักทรัพย์ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนได้ในปี 63


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ