BANPU เผยศึกษาโอกาสลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไปในเวียดนาม หลังทำพลังงานลม 200 MW เริ่ม COD ปี 64

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday November 12, 2018 10:18 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสมฤดี ชัยมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บ้านปู (BANPU) เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจของบริษัทในส่วนของกิจการไฟฟ้านั้น ยังคงเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 200 เมกะวัตต์ ในจังหวัดซอกจัง (Soc Trang) ประเทศเวียดนาม คาดว่าโครงการระยะที่ 1 จะแล้วเสร็จและเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี 64 และ กำลังศึกษาโอกาสในโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานเชื้อเพลิงทั่วไป และพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนามเพิ่มเติม ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ Greener & Smarter ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ การลงทุนในประเทศเวียดนาม จะนำจุดแข็งจากการผนึกกำลังระหว่างกันในกลุ่มธุรกิจหลัก (Strong Integration) ซึ่งครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ มาช่วยให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน สอดรับกับแนวโน้มการใช้พลังงานประเภทต่าง ๆ ของประเทศเวียดนามที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปีนี้บริษัทได้ทำสัญญาการซื้อขายถ่านหิน จำนวน 1.3 ล้านตันกับ Vietnam Electricity (EVN) พร้อมเปิดสำนักงานในนครโฮจิมินห์เพื่อประสานงานด้านการค้าในอนาคต

โดยบริษัทมีความพร้อมที่จะตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของลูกค้าในเวียดนามด้วยความสามารถในการจัดหาและขนส่งถ่านหินที่มีคุณภาพตามที่ลูกค้าต้องการได้อย่างทั่วถึงจากเครือข่ายคู่ค้าที่แข็งแกร่ง

นางสมฤดี กล่าวว่า สำหรับผลประกอบการในไตรมาส 3/61 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 965 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 31,816 ล้านบาท) เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนหน้า 245 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 8,078 ล้านบาท) หรือเพิ่มขึ้น 34% โดยมีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมและค่าใช้จ่ายตัดจ่าย (EBITDA) รวม 310 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 10,221 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 18% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิรวม 76 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2,506 ล้านบาท) โดยหากพิจารณากำไรจากการดำเนินงานที่ไม่รวมรายการอัตราแลกเปลี่ยนแล้ว จะคิดเป็นจำนวน 100 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 3,297 ล้านบาท) หรือปรับเพิ่มขึ้น 15% จากไตรมาสก่อนหน้า

ด้วยปัจจัยสนับสนุนจากความต้องการถ่านหินที่ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ผนวกกับอุปทานที่มีอยู่อย่างจำกัดในไตรมาสที่ผ่านมา ส่งผลให้ราคาขายถ่านหินเฉลี่ยของบริษัท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

"ผลประกอบการในไตรมาส 3 นี้เป็นที่น่าพอใจ บ้านปูฯ ยังคงเติบโตต่อเนื่องจากทุกหน่วยธุรกิจหลัก ธุรกิจถ่านหินมีปริมาณการขายถ่านหินที่ปรับสูงขึ้นจึงส่งผลดีต่อรายได้ในช่วงที่ราคาถ่านหินอยู่ในระดับสูง ธุรกิจไฟฟ้ามีประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าที่ดีทั้งจากโรงไฟฟ้าหงสาและ BLCP และในส่วนธุรกิจก๊าซมีกำไรที่ดีขึ้นเช่นกันจากราคาก๊าซในตลาดสหรัฐฯ ที่ปรับสูงขึ้น"นางสมฤดี กล่าว

นางสมฤดี กล่าวว่า บริษัทยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรด้วยกลยุทธ์ Greener & Smarter อย่างต่อเนื่องจากกลุ่มธุรกิจที่มีความหลากหลาย พร้อมมอบโซลูชันด้านพลังงานแบบครบวงจร และในฐานะบริษัทพลังงานชั้นนำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก บริษัทยังมุ่งมั่นในการบริหารจัดการพลังงานอย่างยั่งยืน (Sustainable Energy) โดยสร้างสมดุลระหว่างธุรกิจพลังงานดั้งเดิมและพลังงานรูปแบบใหม่ เพื่อส่งมอบพลังงานในราคาที่สมเหตุสมผล (Affordable) มีความต่อเนื่อง (Reliable) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (Eco-friendly) ตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของผู้บริโภค ชุมชน และสังคมได้อย่างยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าแก่ผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน ตามพันธสัญญาขององค์กร Our Way in Energy: พลังบ้านปูฯ สู่พลังงานที่ยั่งยืน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ