นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/61 โดยบริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.92 ล้านบาท หรือเติบโต 98.95% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 17.10 ล้านบาท ส่งผลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 61 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 42.95 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.79 ล้านบาท หรือเติบโต 29.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 33.16 ล้านบาท
ปัจจัยการเติบโตมาจากบริษัทได้รับเงินปันผลจำนวน 19.56 ล้านบาท หลังจากได้มีการเข้าซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท เอ็ม อี ซี ที จำกัด (MECT) ผู้ให้บริการรับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า-สื่อสาร ระบบปรับอากาศ ระบบสุขาภิบาล และระบบป้องกันอัคคีภัย จำนวน 391,250 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 20% ของจำนวนหุ้นที่ออกจำหน่ายแล้วของ MECT ภายหลังการทำรายการ โดยมีการซื้อขายหุ้นในราคา 388.86 บาท มีมูลค่าที่ตราไว้ 100 บาทต่อหุ้น รวมทั้งสิ้นมีมูลค่าลงทุนอยู่ที่ 152.14 ล้านบาท
อีกทั้งในไตรมาส 3/61 โดยบริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 314.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.15 ล้านบาท หรือเติบโต 25.08% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมอยู่ที่ 250.74 ล้านบาท ส่งผลในช่วง 9 เดือนแรกของปี 61 มีรายได้รวมอยู่ที่ 768.48 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111.95 ล้านบาท หรือเติบโต 17.05% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน มีรายได้รวมอยู่ที่ 656.53 ล้านบาท
นายธานิน กล่าวอีกว่า ในช่วงไตรมาส 4/61 บริษัทยังเตรียมรับงานซับคอนเทรคตู้สื่อสาร " USO NET เฟส 2" ประมาณ 10,000 ตู้ มูลค่า 170 ล้านบาท ทำให้คาดว่าผลประกอบการจะทำสถิติสูงสุดใหม่ ประกอบกับบริษัทยังคาดว่าจะเซ็นสัญญารับงานผลิตเฟอร์นิเจอร์เหล็ก เพื่อส่งออกไปยังสหรัฐฯ ทำให้มั่นใจรายได้ปี 61 จะเติบโต 10-20% จากปี 60 ที่มีรายได้อยู่ที่ 846 ล้านบาท เนื่องจากในช่วงครึ่งปีหลังคาดจะเติบโตกว่าช่วงครึ่งปีแรก ประกอบกับมีการได้รับออเดอร์งานในส่วนของเสาสื่อสารโทรคมนาคมมากขึ้น ประกอบกับได้รับออเดอร์งานในธุรกิจอื่นๆ โดยในปัจจุบันทางบริษัทยังมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 500 ล้านบาท โดยคาดจะรับรู้รายได้ทั้งหมดภายในปีนี้