ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,652.30 จุด ลดลง 7.48 จุด (-0.45%) มูลค่าการซื้อขาย 44,897.05 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,660.74 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,646.24 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 523 หลักทรัพย์ ลดลง 887 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 413 หลักทรัพย์
นายธนเดช รังษีธนานนท์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย และตลาดในยุโรปที่เทรดบ่ายนี้ต่างก็ปรับตัวลงกันทั่วหน้า จาก Sentiment โดยรวมที่ไม่ดี และราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ตลาดฯยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยเดิมในเรื่องเศรษฐกิจโลกปีหน้าที่คาดการณ์กันว่าจะชะลอตัว แต่จะมากหรือน้อยแค่ไหน คงจะต้องรอดูผลจากจีนก่อน และสหรัฐฯก็มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยด้วย ขณะเดียวกันช่วงนี้ตลาดฯก็ไม่มีปัจจัยบวกเข้ามา มีแต่ปัจจัยลบ อย่างไรก็ดี ตลาดฯยังมีความคาดหวังในการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ โดยล่าสุดนายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ได้เริ่มต้นหารือทางการค้ากับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน ซึ่งคงจะเป็นการพูดคุยกันเบื้องต้น ก็คาดหวังว่าจะได้สัญญาณที่ดี
นอกจากนี้ ช่วงนี้เป็นช่วงของการทยอยประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนงวดไตรมาส 3/61 ซึ่งก็ต้องติดตามดูต่อไป อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเรายังมีปัจจัยหนุนจากการเลือกตั้ง
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (15 พ.ย.) นายธนเดช กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะรีบาวด์ได้ แต่การเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศใหญ่ยังคุยกันไม่ได้ก็เป็นแค่รีบาวด์ในช่วงสั้น และตลาดฯยังไม่ปรับขึ้นไปจนกว่าปัจจัยเสี่ยงจะถูกปิดลง ดังนั้นการซื้อขายหุ้นช่วงนี้ต้องระวัง พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660-1,670 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 4,400.76 ล้านบาท ปิดที่ 131.50 บาท ลดลง 5.50 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,681.96 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,155.11 ล้านบาท ปิดที่ 69.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,699.13 ล้านบาท ปิดที่ 76.25 บาท ลดลง 2.75 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 1,507.65 ล้านบาท ปิดที่ 440.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท