นายทชากร ลีลาประชากุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยมุ้ย คอร์ปอเรชั่น (THMUI) เปิดเผยว่า แนวโน้มไตรมาส 4/61 มีทิศทางการเติบโตที่ดี จากการลงทุนของภาคเอกชนและภาครัฐบาลที่ออกมาอย่างต่อเนื่อง โดย THMUI ได้รับอานิสงส์จากการมีลูกค้าที่อยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรม มีธุรกิจจัดจำหน่ายลวดสลิงเป็นธุรกิจหลัก รวมทั้ง อุปกรณ์ยกหิ้ว และสินค้าอื่นๆ ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็น และมีความต้องการใช้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ แผนการติดตั้งเครื่องทดสอบแรงดึงขนาด 400 ตัน แล้วเสร็จในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ทำให้บริษัทฯ มีเครื่องทดสอบแรงดึงขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ พร้อมขยายการให้บริการแก่ลูกค้าชั้นนำเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ บริษัทได้เข้าไปประมูลรับงานโครงการต่างๆ และการทำสัญญาจำหน่ายสินค้าและบริการของบริษัทฯ เป็นสัญญาระยะยาว สามารถทยอยรับรู้รายได้อย่างมั่นคง แข็งแกร่ง จึงมั่นใจ ภาพรวมผลประกอบการปี 61 จะสามารถทำนิวไฮได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ วางเป้าหมายรายได้จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 35% เมื่อเทียบกับปี 60 รายได้อยู่ที่ 287.36 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.34 ล้านบาท
ผลประกอบการบริษัทงวด 9 เดือนแรกของปี 2561 มีรายได้จากการขายและบริการ 477.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.58% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 310.61 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายท่อและอุปกรณ์ท่อสนับสนุน โดยสัดส่วนรายได้ของบริษัทฯ แบ่งเป็น รายได้จากการขายในสัดส่วน 78.12% ได้แก่ รายได้จากลวดสลิงและอุปกรณ์ชุดประกอบ 37.68% สลิงผ้าใบ 2.77% โซ่ 1.35% อุปกรณ์ยกหิ้ว 10.67% และสินค้าอื่นๆ 25.65% รวมทั้ง มีรายได้จากการให้บริการรวมสัดส่วน 21.88%
สำหรับกำไรขั้นต้น อยู่ที่ 132.84 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 120.82 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นในงวด 9 เดือนแรกของปี 60 และ 61 อยู่ที่ 38.90% และ 27.85% ตามลำดับ โดยกำไรขั้นต้นลดลงเล็กน้อย เนื่องจากมีต้นทุนขายและให้บริการท่อและอุปกรณ์ท่อเพิ่มขึ้น สำหรับกำไรสุทธิอยู่ที่ 26.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.83% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 24.69 ล้านบาท คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ อยู่ที่ 7.95% และ 5.48% ตามลำดับ
ด้านผลประกอบการบริษัทงวดไตรมาส 3/61 (สิ้นสุด ณ วันที่ 30 ก.ย.61) บริษัทฯ มีรายได้จากการขายและบริการ 145.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.88% จากงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 127.78 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากการขายและบริการท่อ อุปกรณ์ท่อ 40.30 ล้านบาท และรายได้อื่นๆ เพิ่มขึ้น 0.26 ล้านบาท มีกำไรขั้นต้นงวดไตรมาส 3/61 อยู่ที่ 44.61 ล้านบาท เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 48.53 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.63 ล้านบาท