ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,617.33 จุด เพิ่มขึ้น 5.30 จุด (+0.33%) มูลค่าการซื้อขาย 46,966.44 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,622.14 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,598.57 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 697 หลักทรัพย์ ลดลง 655 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 502 หลักทรัพย์
นายชัยยศ จิวางกูร ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กรุงศรี กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เกิดเทคนิคเคิลรีบาวด์หลังจากที่ไม่หลุดแนว 1,600 จุด ทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามา และยัง Senitment จากตลาดหุ้นฮ่องกงและดาวโจนส์ฟิวเจอร์สที่กลับมาบวกได้ แม้ว่าตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่จะยังติดลบเล็กน้อย
นอกจากนี้ ตัวเลขส่งออกเดือน ต.ค.ที่ออกมาเติบโต 8.7% ดีกว่าตลาดฯคาดที่จะเติบโต 4% ทำให้ช่วย Sentiment ตลาดฯได้อีกแรงหนึ่ง
สำหรัลปัจจัยที่ต้องติดตามเป็นเรื่องการประชุมผู้นำทั้งหมดของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ในช่วงปลายสัปดาห์นี้ โดยจับตาประเด็นอังกฤษจะแยกตัวจากสหภาพยุโรป (Brexit) และติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิต และภาคบริการ ของสหรัฐฯที่จะออกมาในช่วงปลายสัปดาห์นี้เช่นกัน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (22 พ.ย.) นายชัยยศ กล่าวว่า ตลาดฯยังมีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นไปได้ต่อ แต่คงจะไปได้ไม่ไกล เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามา แต่ยังมองบวกจากที่ดัชนีฯไม่หลุดระดับ 1,600 จุด และเห็นแรงซื้อที่เข้ามามากขึ้น
พร้อมให้แนวรับ 1,600-1,610 จุด ส่วนแนวต้าน 1,625-1,630 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,583.54 ล้านบาท ปิดที่ 48.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 2,246.72 ล้านบาท ปิดที่ 63.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,133.39 ล้านบาท ปิดที่ 130.50 บาท ลดลง 0.50 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,046.54 ล้านบาท ปิดที่ 193.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,825.26 ล้านบาท ปิดที่ 68.25 บาท ลดลง 0.50 บาท