นายสุรยุทธ ทวีกุลวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บมจ.บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าสายหลักในงวดปีนี้เติบโต 4-5% จากปีก่อน แม้สิ้นงวดไตรมาส 2/61 จะเติบโต 1% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากนักท่องเที่ยวจีนชะลอตัว และรถไฟฟ้าบีทีเอสเกิดปัญหาขัดข้องในช่วงที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีจำนวนผู้โดยสารเฉลี่ย 747,000 เที่ยวคน/วัน แต่ช่วงที่เหลือจะได้รับแรงหนุนจากรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้
ขณะที่บริษัทยังคงเป้ารายได้งวดปี 61/62 (เม.ย. 61–มี.ค. 62) จะเติบโต 200% โดยมีปัจจัยหนุนจากธุรกิจในเครือที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ประกอบด้วยรายได้การเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) คาดว่าจะเติบโต 30% จากปีก่อน เนื่องจากกำหนดเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการของรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวใต้ (แบริ่ง-สมุทรปราการ) ระยะทาง 12.6 กิโลเมตร (กม.) ในวันที่ 6 ธ.ค.61 ทำให้สิ้นงวดปี 61/62 จะมีเส้นทางในการเดินรถรวมทั้งสิ้น 48.9 กิโลเมตร (กม.) รวม 43 สถานี จากปัจจุบันที่ 38.1 กม. จำนวน 35 สถานี
นอกจากนั้น คาดว่างวดปี 61/62 บริษัทจะเริ่มรับรู้รายได้ 20,000-25,000 ล้านบาทจากงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) ซึ่ง BTS เป็นผู้รับงานร่วมกับพันธมิตรในนามกลุ่มกิจการร่วมค้า BSR Joint Venture ที่ประกอบด้วย BTS, บมจ.ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง (RATCH) และ บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC)
ขณะเดียวกันคาดมีการรับรู้รายได้ต่อเนื่องจากปีก่อนอีก 7,000-9,000 ล้านบาทจากการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสำหรับสีเขียวส่วนต่อขยายและการติดตั้งระบบไฟฟ้าและเครื่องกลสำหรับเส้นทางสายสีเขียวใต้ และสีเขียวเหนือ (หมอชิต-คูคต) รวมทั้งคาดว่าจะมีรายได้จากดอกเบี้ยรับจากการจัดหาขบวนรถไฟฟ้าสำหรับส่วนต่อขยายสายสีเขียว และจากงานก่อสร้างสายสีชมพูและสายสีเหลืองอีกประมาณ 600-700 ล้านบาท
ด้านธุรกิจโฆษณาภายใต้การบริหารของ บมจ.วี จี ไอ โกลบอล มีเดีย (VGI) ยังคงขยายธุรกิจสื่อโฆษณานอกบ้านอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้ได้ปรับเป้ารายได้งวดปี 61/62 จะเติบโตเป็น 5,000 ล้านบาท จากเดิมที่กำหนดที่ระดับ 4,400-4,600 ล้านบาท เนื่องจากมีความชัดเจนการเลือกตั้ง จึงเชื่อจะทำให้ตลาดสื่อขยายตัวในทิศทางที่ดี
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ภายใต้ของ BTS คาดว่าจะมีรายได้ 350 ล้านบาท และภายใต้ บมจ.ยู ซิตี้ (U) คาดว่าจะรับรู้รายได้ปี ประมาณ 6,000-6,700 ล้านบาท และมี EBITDA margin ไม่ต่ำกว่า 25%
นายสุรยุทธ กล่าวถึงแผนการดำเนินงาน 5 ปี (งวดปี 60/61-งวดปี 65/66) ว่า บริษัทวางเป้ากำไรจะเติบโตปีละ 25% และคงเป้ามีรายได้เติบโตปีละ 30% โดยเป็นการเติบโตตามการขยายตัวของเส้นทางการเดินรถ รวมถือธุรกิจในครือที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้บริษัทวางงบลงทุน 10,000 ล้านบาท เพื่อสั่งซื้อรถไฟฟ้าจากต่างประเทศรวมทั้งหมด 46 ขบวน โดยปัจจุบันนำเข้ามาแล้วประมาณ 2-3 ขบวน ซึ่งจะทยอยนำเข้ามาก่อนครบกำหนดเปิดรถไฟฟ้าสายเขียวเหนือที่มีกำหนดเปิดปี 63 ส่งผลให้มีขบวนรถไฟฟ้าทั้งสิ้น 98 ขบวน
สำหรับกรณีการเข้าประมูลโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา มูลค่าการลงทุนรวม 224,544.36 ล้านบาท คาดว่าจะทราบผลในเดือน ธ.ค.นี้ โดยยังมั่นใจว่าจะได้รับคัดเลือก แต่ยังคงต้องขึ้นอยู่กับข้อเสนอของแต่ละราย โดยการประมูลดังกล่าว ผ่านกิจการร่วมค้า บีเอสอาร์ (BSR Joint Venture)