(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นสิงคโปร์: นลท.ยังวิตกศก.สหรัฐฉุดสเตรทส์ไทม์ปิดลบ 23.73 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 11, 2008 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีสเตรทส์ไทม์ตลาดหุ้นสิงคโปร์ปิดปรับลดลงในวันนี้ (11 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนยังหวาดเกรงว่าเศรษฐกิจสหรัฐอาจเข้าสู่ภาวะถดถอย หลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวเป็นนัยอย่างชัดเจนว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก
นอกจากนั้น การที่สื่อรายงานว่า ซิตี้กรุ๊ป และ เมอร์ริลล์ ลินช์ อาจขาดทุนจากวิกฤติซับไพรม์มากกว่านี้ และต้องได้รับการอัดฉีดเม็ดเงินอย่างเร่งด่วน ยังส่งผลให้ดัชนีสเตรทส์ไทม์ปิดต่ำกว่าแนวรับทางจิตวิทยาที่ 3,300 จุด
"วิกฤติซับไพรม์ยังคงส่งผลกระทบต่อหุ้นที่กำลังดีดตัวขึ้น ก่อนที่บริษัทด้านการเงินแห่งใหญ่ของสหรัฐจะเปิดเผยรายงานผลประกอบการ" เหยา กี หยัน นักยุทธศาสตร์ตลาดค้าปลีกของ DBS Vickers กล่าว
สำนักข่าวธอมสันไฟแนนเชียลรายงานว่า ดัชนีสเตรทส์ไทม์ร่วง 23.73 จุด หรือ 0.7% ปิดที่ 3,287.34 จุด และปรับลดลงแล้วกว่า 150.45 จุด หรือ 4.4% ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีปริมาณการซื้อขาย 2.0 พันล้านหุ้น มูลค่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
หุ้นกลุ่มธนาคารปรับลดลง โดยหุ้นดีบีเอส กรุ๊ป ร่วง 24 เซนต์สิงคโปร์, หุ้นยูโอบี ลด 6 เซนต์ และ หุ้นโอซีบีซี ลดลง 7 เซนต์
นักลงทุนต่างวิตกว่าผลกำไรของธนาคารอาจได้รับผลกระทบจากอัตราดอกเบี้ยที่ปรับลดลง แม้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธุรกิจปล่อยกู้จะยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่งก็ตาม
นอกจากนั้นถ้อยแถลงของนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานเฟด ที่บอกเป็นนัยว่าอาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกสูงสุด 0.5% ก็ไม่เป็นผลดีต่อตลาดแต่อย่างใด
“ถึงเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย เศรษฐกิจสหรัฐก็คงไม่ดีขึ้นในทันที ตลาดยังคงมีความไม่แน่นอนอีกมาก" นายเหยากล่าว
นายเหยากล่าวต่อไปว่า กองทุนเริ่มลดการลงทุนในหุ้นจีน เนื่องจากความกังวลเรื่องราคาน้ำมัน อาหาร และสินค้าโภคภัณฑ์ในระดับสูงเริ่มที่จะส่งผลกระทบต่อสัดส่วนการทำกำไรของบริษัทจีนหลายราย
หุ้นจีนที่ได้รับผลกระทบได้แก่ หุ้นหยางซีเจียง ซึ่งเป็นบริษัทต่อเรือ หุ้นบริษัทจิวเทียน แอนด์ เซเลสเชียล นูทรีฟู้ดส์ ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มจากถั่วเหลือ
หุ้นสิงคโปร์ เพรสส์ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทด้านสื่อและอสังหาริมทรัพย์ สวนทางตลาดโดยการปรับเพิ่ม 9 เซนต์ เนื่องจากนักลงทุนคาดว่าบริษัทจะมีผลประกอบการณ์อันแข็งแกร่งในช่วงไตรมาสแรกสิ้นสุดที่เดือนพ.ย.ปีที่แล้ว
ด้านหุ้นกลุ่มบลูชิป หุ้นสิงคโปร์ เทคโนโลยีส์ เอนจิเนียริ่ง ปรับเพิ่ม 6 เซนต์ ในขณะที่หุ้นสิงคโปร์ เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ ปรับเพิ่ม 8 เซนต์ ส่วนหุ้นสิงคโปร์ แอร์ไลน์ส ปรับลดลง 8 เซนต์
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ก็ปรับลดลงเช่นกัน โดยหุ้นแคปปิตัลแลนด์ ลดลง 7 เซนต์, หุ้นซิตี้ เดเวลอปเมนท์ ลดลง 6 เซนต์ และ หุ้นเคปเพลแลนด์ ลดลง 6 เซนต์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ