ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์กวิตกธุรกิจการเงิน ฉุดดาวโจนส์ปิดร่วง 246.79 จุด

ข่าวหุ้น-การเงิน Saturday January 12, 2008 07:20 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

          ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในธุรกิจการเงินและการผิดนัดชำระในตลาดสินเชื่อ จะยังไม่สิ้นสุดลงในเร็วๆนี้ และกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่กำลังชะลอตัวลงนั้นจะส่งผลกระทบถึงตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคด้วย
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดร่วงลง 246.79 จุด หรือ 1.92% แตะระดับ 12,606.30 จุด ขณะที่ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 19.31 จุด หรือ 1.36% แตะระดับ 1,401.02 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดลดลง 48.58 จุด หรือ 1.95% แตะระดับ 2,439.94 จุด
ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ประมาณ 4.3 พันล้านหุ้น ลดลงจากวานนี้ที่ 5.03 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นลบมากกว่าหุ้นบวกในอัตราส่วน 2 ต่อ 1
ในขณะที่ภาคเอกชนกำลังทะยอยเปิดเผยผลประกอบการในช่วงนี้นั้น นักลงทุนกังวลว่าธนาคารและบริษัทโบรกเกอร์อาจได้รับผลกระทบเนื่องจากขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองให้กับลูกหนี้ที่ขาดความน่าเชื่อถือ (ซับไพรม์) ซึ่งในสัปดาห์หน้านี้ สถาบันการเงินรายใหญ่ของสหรัฐเตรียมเปิดเผยผลประกอบการ ซึ่งรวมถึงเมอร์ริล ลินช์ ซิตี้กรุ๊ป และเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค
นักลงทุนวิตกกังวลต่อข่าวจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์ก ไทมส์ ที่รายงานว่า เมอร์ริล ลินช์ อาจจะขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองเป็นวงเงินสูงถึง 1.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่ประมาณการไว้เบื้องต้นถึง 2 เท่า และส่งผลให้เมอร์ริล ลินช์ ต้องระดมเงินทุนเพิ่มจากนักลงทุนภายนอก
นักวิเคราะห์ของนิวยอร์ก ไทมส์คาดว่า เมอร์ริล ลินช์ ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์รายใหญ่สุดของสหรัฐ จะเปิดเผยยอดการตัดบัญชีหนี้สูญเป็นวงเงินมูลค่ามหาศาลเมื่อมีการรายงานผลประกอบการในสัปดาห์หน้า และคาดว่าตัวเลขขาดทุนของเมอร์ริล ลินช์จะมีอยู่กว่า 1.2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์ในตลาดวอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้
นายแบรนดอน โธมัส นักวิเคราะห์จากบริษัทพอร์ทโฟลิโอ เมเนจเมนท์ คอนซัลแทนท์กล่าวว่า "นักลงทุนวิตกกังวลมากขึ้นเมื่อบริษัทอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ออกมายอมรับว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่ลดลงและการผิดนัดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้น อาจทำให้ตัวเลขกำไรตลอดปี 2551 ของบริษัทลดน้อยลงด้วย"
ขณะที่นายไมเคิล เชิร์ช นักวิเคราะห์จากเชิร์ช แคปิตอล เมเนจเมนท์กล่าวว่า "ข่าวในด้านลบที่ออกมาเป็นระลอกจากภาคการเงินกำลังสร้างแรงกดดันให้ตลาด เราคาดว่าตลาดหุ้นนิวยอร์กจะเคลื่อนตัวผันผวนต่อไปอีกอย่างน้อยก็จนถึงช่วงสิ้นสุดฤดูการรายงานผลประกอบการ"
ทั้งนี้ หุ้นอเมริกัน เอ็กซ์เพรส ร่วงลง 10.1% ขณะที่หุ้นแบงค์ ออฟ อเมริกา รูดลง 2% หุ้นคันทรีไวด์ ไฟแนนเชียลปรับตัวลง 18%
ส่วนหุ้นเจพีมอร์แกนดิ่งลง 47 เซนต์ ปิดที่ 40.86 ดอลลาร์ หลังจากสถานีโทรทัศน์ซีเอ็นบีซีรายงานว่า เจพีมอร์แกนกำลังเจรจาเข้าซื้อหุ้นในวอชิงตัน มิวช่วล ซึ่งเป็นบริษัทปล่อยกู้รายใหญ่ของสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นวอชิงตัน มิวช่วลพุ่งขึ้น 3.7%
หุ้นแมคโดนัลด์ดิ่งลง 6.6% หลังจากนักวิเคราะห์ของเฟร็ดแมน บิลลิงส์ แรมเซย์ ได้แสดงความคิดเห็นในด้านลบต่อผลประกอบการของแมคโดนัลด์

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ