EASTW รับรายได้ปี 61 ทรงตัวจากปีก่อน หลังฝนชุกกระทบปริมาณขาย ,เตรียมเปิดโครงการบริหารน้ำครบวงจร Q1/62

ข่าวหุ้น-การเงิน Monday December 3, 2018 16:52 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชรินทร์ โซนี่ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายพัฒนาธุรกิจ บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) เปิดเผยว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 61 จะทรงตัวจากระดับ 4.3 พันล้านบาทในปีก่อน เป็นผลมาจากมีปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ทำให้ลูกค้าผู้ใช้น้ำสามารถเข้าถึงแหล่งน้ำได้สะดวกมากขึ้น กระทบต่อความต้องการใช้น้ำลดลงและกระทบต่อปริมาณการขายน้ำดิบในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ที่ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน

ปัจจุบันบริษัทมีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบราว 60% และจากธุรกิจการจำหน่ายน้ำประปา 25-30% และรายได้อื่น ๆ 10%

อย่างไรก็ตามบริษัทเชื่อว่ารายได้ปี 62 สามารถฟื้นตัวได้จากปริมาณการขายน้ำมากขึ้น เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศซึ่งระบุว่าปริมาณน้ำฝนจะลดลงกว่าปกติ ทำให้แนวโน้มความต้องการใช้น้ำสูงขึ้นจากปีนี้ ซึ่งคาดว่าปริมาณการขายน้ำจะอยู่ที่ 260 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ที่ 250 ล้านลูกบาศก์เมตร

พร้อมกันนี้บริษัทวางงบลงทุนราว 1 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการพัฒนาระบบการจำหน่ายน้ำใน 3 จังหวัดในพื้นที่เขตพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งเป็นพื้นที่หลักในการพัฒนาธุรกิจของบริษัท อย่างไรก็ดีบริษัทยังมองโอกาสในการขยายธุรกิจไปในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย แต่ยังจำเป็นต้องพิจารณาความเหมาะสมในการเข้าลงทุนและความแข็งแกร่งของบริษัทด้วย

นอกจากนี้บริษัทเตรียมเปิดโครงการบริหารจัดการน้ำแบบครบวงจร ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่จะเข้ามาสร้างรายได้ให้กับบริษัทได้ค่อนข้างมากโดยไม่ต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ ซึ่งปัจจุบันมีลูกค้าแล้ว 1 ราย และยังมีการเจรจากับลูกค้าในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ คาดว่าจะสามารถเปิดเผยชัดเจนได้ภายในไตรมาสที่ 1/62

ขณะเดียวกันบริษัทมีการจำหน่ายน้ำควบคุมคุณภาพสูง ซึ่งมีความเสถียรและสามารถใช้งานได้ดีกว่าน้ำดิบจากธรรมชาติ โดยมองว่าเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่ ซึ่งในระยะถัดไป 3-5 ปีบริษัทมีแผนเพิ่มน้ำหนักในธุรกิจดังกล่าวมากขึ้นจากสามารถทำอัตรากำไรได้ดีกว่าเดิม ปัจจุบันมีการลูกค้าแล้วจำนวน 2 สัญญา ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง มูลค่าโครงการ 3.5 พันล้านบาท คาดว่าจะดำเนินการในเชิงพาณิชย์ได้ในปี 63 และบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) คาดว่าจะดำเนินการได้ในปี 64

ส่วนปัจจัยการเลือกตั้งในปี 62 มองว่าจะไม่กระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจากมองว่าผู้ประกอบการในโครงการต่าง ๆ จะดำเนินการตามแผนได้อย่างชัดเจนและไม่ล่าช้า ซึ่งเชื่อว่าถึงแม้มีการเลือกตั้งหรือไม่นั้น บริษัทจะยังเติบโตได้อย่างแน่นอน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ