ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,653.73 จุด ลดลง 18.59 จุด (-1.11%) มูลค่าการซื้อขาย 38,682.06 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,658.64 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,649.23 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 327 หลักทรัพย์ ลดลง 1,079 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 348 หลักทรัพย์
นายธีรวุฒิ กานต์นิภากุล ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าย Equity Derivative บล.ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดต่างประเทศ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย, ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ส และตลาดในยุโรป ต่างติดลบกันทั่วหน้า จากความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีความไม่แน่นอน และหวั่นจะกระทบเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้คนเริ่มหันมาถือเงินสดมากขึ้น บางส่วนก็เข้าไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างพันธบัตร (Bond) เห็นได้จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตร (Bond Yield) ของสหรัฐญที่ลดลงเรื่อย ๆ จากที่มีคนเข้าไปไล่ซื้อพันธบัตร ทั้งที่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯเป็นขาขึ้น แต่คนก็กลัวว่าถ้าไปซื้อสินทรัพย์อื่นแล้วจะขาดทุนได้ จึงนำเงินเข้ามาพักที่ Bond
สำหรับปัจจัยในประเทศแม้ว่าเศรษฐกิจไทยจะแข็งแกร่ง แต่คนก็ยังเลือกที่จะถือเงินสด เพราะบางส่วนอาจมองว่าหุ้นได้พีคไปแล้ว และเศรษฐกิจอาจโตชะลอในปีหน้าได้ จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้นซึ่งมีนัยยะต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) นายธีรวุฒิ กล่าวว่า ตลาดฯมีโอกาสปรับตัวลง โดยเล็งหุ้นในกลุ่มพลังงานอาจจะกดดันตลาดฯ เห็นได้จากวันนี้น้ำมันฟิวเจอร์สได้ปรับตัวลง ก่อนที่การประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) จะเริ่มขึ้นในวันนี้
พร้อมให้แนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,675-1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,913.63 ล้านบาท ปิดที่ 50.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,042.69 ล้านบาท ปิดที่ 138.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,734.76 ล้านบาท ปิดที่ 65.25 บาท ลดลง 0.75 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,611.27 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTGC มูลค่าการซื้อขาย 1,587.39 ล้านบาท ปิดที่ 79.75 บาท ลดลง 1.25 บาท