นายบัณฑิต ประดิษฐ์สุขถาวร ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินและบัญชี บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC) เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ายอดขายงวดบัญชีปี 61/62 (ก.ค.61-มิ.ย.62) เติบโตที่ระดับ 5% จากปัจจัยการขยายสาขาใหม่เป็นหลัก และจะมีการออกผลิตภัณฑ์ในคอลเล็คชั่นใหม่ที่คาดว่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการเติบโต ส่วนยอดขายสาขาเดิม (Same Store Sale) บริษัทคาดว่าอาจไม่มีการเติบโตมากนัก ซึ่งยังต้องติดตามสภาพเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลักว่าจะมีการเติบโตมากน้อยเพียงใด
อย่างไรก็ตาม บริษัทประเมินภาพรวมเศรษฐกิจในปี 62 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้ดีกว่าปีนี้ จากราคาสินค้าเกษตรที่เริ่มมีการฟื้นตัวและคาดหวังว่าการเลือกตั้งภายในประเทศจะช่วยเข้ามาส่งเสริมนโยบายต่าง ๆ ให้ชัดเจนมากขึ้น ทำให้คาดว่ากำลังซื้อลูกค้าในต่างจังหวัดจะกลับมาดีขึ้น ส่วนลูกค้าในกรุงเทพฯ จะต้องมีการวางกลยุทธ์การตลาดเพื่อส่งเสริมยอดขายด้วยเช่นกันจากมีการแข่งขันหลากหลายแบรนด์
ขณะเดียวกันบริษัทวางงบลงทุนไว้ราว 100 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาใหม่ 40 สาขา ภายในเดือนธ.ค.62 ซึ่งบริษัทมีแผนการขยายไปยังสถานีบริการน้ำมันผ่านการเปิดร้าน mcmc Outlet Store เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายลูกค้าต่างจังหวัดที่ใช้จักรยานยนต์ในการเดินทางเป็นหลัก โดยบริษัทมองเห็นโอกาสในการพัฒนา Product Mixed ในสถานีบริการน้ำมันมากขึ้น นอกเหนือจากร้านอาหารต่าง ๆ
โดยในระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมามีการเติบโตได้ค่อนข้างดี จากมียอดขายรวมราว 100 ล้านบาท จากจำนวนราว 20 สาขา ซึ่งในระยะถัดไปบริษัทมีแผนนำสินค้าจากแบรนด์อื่นที่เป็นพันธมิตรมาวางจำหน่ายร่วมด้วย เบื้องต้นคาดว่าจะเป็นได้ทั้งรูปแบบการให้เช่าพื้นที่และการแบ่งส่วนแบ่งรายได้
นอกจากนี้บริษัทยังมองโอกาสขยายสาขาต่างประเทศจากปัจจุบันมีจำนวน 14 สาขา ประกอบด้วย สปป.ลาว 2 สาขา, เมียนมา 8 สาขา และอิหร่าน 4 สาขา ซึ่งบริษัทยังมุ่งเน้นการขยายสาขาในเอเชียเป็นหลัก และปัจจุบันมีพันธมิตรเข้ามาเจรจาอย่างต่อนื่อง อย่างไรก็ดี ยังต้องรอความชัดเจนในระยะต่อไป
นายบัณฑิต กล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าลงทุนในบริษัท แมคมิลเลี่ยน (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจการให้บริการการจัดการคลังสินค้าแบบครบวงจรสำหรับธุรกิจออนไลน์และอื่น ๆ บริษัทมองการได้รับประโยชน์จากสามารถบริหารจัดการสินค้าของบริษัทได้ดีขึ้น ทำให้พนักงานสามารถบรรจุสินค้าได้เป็น 9 กล่อง/ชั่วโมง/คน จากเดิม 4 กล่อง/ชั่วโมง/คน ซึ่งทำให้บริษัทสามารถนำทรัพยากรบุคคลที่มีเพื่อหาลูกค้าใหม่ ๆ ในอนาคตได้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีลูกค้าแสดงความสนใจเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้บริษัทคาดว่าจำนวนสมาชิก Mc club ภายในสิ้นธ.ค.62 จะสามารถแตะที่ระดับ 1.3 ล้านคน จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 1 ล้านคน และคาดว่าแอพพลิเคชั่นสำหรับใช้ทำกิจกรรมการตลาดรายบุคคลจะแล้วเสร็จในช่วงเดือนม.ค.-ก.พ.62 ส่งผลให้บริษัทสามารถติดต่อกับลูกค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำลง และจะเริ่มดำเนินกิจกรรมการตลาดในปีหน้าเป็นต้นไป