ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,649.99 จุด ลดลง 3.74 จุด (-0.23%) มูลค่าการซื้อขาย 35,022.60 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,659.45 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,648.33 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 521 หลักทรัพย์ ลดลง 686 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 563 หลักทรัพย์
นายสุโชติ ถิรวรรณรัตน์ ผู้จัดการฝ่ายวิจัย บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์ ซึ่งปัจจัยจากต่างประเทศดูดีขึ้นบ้างแต่ไม่มาก อย่างข้อมูลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่น่าจะชะลอในปีหน้า และความกังวลเกี่ยวกับการจับกุมผู้บริหารของบริษัท หัวเว่ย ก็ลดลงบ้าง หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ไม่ทราบเรื่องนี้ล่วงหน้า ทำให้คาดว่าจะไม่ใช่เกี่ยวกับการเมือง จึงทำให้ดูดีขึ้นเล็กน้อย
ส่วนบ้านเราในช่วงบ่ายที่ผ่านมาก็ได้กำหนดกรอบการเลือกตั้งอย่างชัดเจนแล้ว ทำให้ปัจจัยลบลดลงแต่ยังไม่หมดไปทีเดียว ซึ่งคาดว่าหุ้นไทยจะค่อย ๆ แกว่ง Sideway up ถ้าไม่มีปัจจัยลบจากต่างประเทศเข้ามาเพิ่มอีก แต่ก็ต้องคอยดูเรื่องเศรษฐกิจชะลอในปีหน้า
ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะเคลื่อนไหวในแดนบวกเล็กน้อย
แนวโน้มการลงทุนในสัปดาห์หน้า นายสุโชติ กล่าวว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทยคงเป็นลักษณะ Sideway up ซึ่งฝ่ายวิจัยได้มองเป้าหมายสิ้นเดือนนี้ (ธ.ค.) ไว้ที่ 1,710 จุด
พร้อมให้แนวรับสัปดาห์หน้าไว้ที่ 1,640 จุด ส่วนแนวต้าน 1,680 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 3,000.67 ล้านบาท ปิดที่ 49.50 บาท ลดลง 0.75 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,762.20 ล้านบาท ปิดที่ 135.00 บาท ลดลง 3.50 บาท
BEM มูลค่าการซื้อขาย 1,618.26 ล้านบาท ปิดที่ 9.20 บาท ลดลง 0.15 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,574.10 ล้านบาท ปิดที่ 192.50 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,222.41 ล้านบาท ปิดที่ 71.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท