(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ผันผวนเล็กน้อย เล็งแรงซื้อ LTF-RMF หนุนตลาดฯ ,เลือกตั้งชัดเจนขึ้น แม้ปัจจัยนอกปท.ยังไม่เอื้อ

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 11, 2018 09:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ บล.ทิสโก้ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะซึมตัวลงก่อน และค่อย ๆ ฟื้นตัวขึ้นได้ ซึ่งอาจจะอยู่ในลักษณะผันผวนเล็กน้อย เนื่องจากเมื่อวานนี้ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียได้ปรับตัวลงราว 1% ขณะที่ตลาดบ้านเราปิดทำการทำให้อาจมีการชดเชยในส่วนนี้ แต่เชื่อว่าแรงซื้อจากเม็ดเงินกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF), กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ (RMF) จะยังช่วยหนุนตลาดฯได้ และการเลือกตั้งก็มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้น

ด้านตลาดภูมิภาคเช้านี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบในกรอบแคบ ทั้งนี้สภาอังกฤษได้เลื่อนโหวตเรื่องร่างข้อตกลงการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ออกไปแล้ว ทำให้ต้องรอดูว่าจะประชุมได้อีกเมื่อใด และรอติดตามสงครามการค้าต่อไป ซึ่งยังมีความไม่แน่นอนสูง ส่วนราคาน้ำมันก็คาดว่าจะฟื้นตัวขึ้นได้ หลังจากที่รัสเซีย และกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ตกลงที่จะลดกำลังการผลิตน้ำมัน

พร้อมให้แนวรับ 1,640-1,645 จุด ส่วนแนวต้าน 1,660 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (10 ธ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,423.26 จุด เพิ่มขึ้น 34.31 จุด (+0.14%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,637.72 จุด เพิ่มขึ้น 4.64 จุด (+0.18%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,020.52 จุด เพิ่มขึ้น 51.27 จุด (+0.74%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน เพิ่มขึ้น 2.43 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน เพิ่มขึ้น 14.18 จุด, ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 4.37 จุด, ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เพิ่มขึ้น 53.54 จุด, ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้น 37.90 จุด, ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ลดลง 128.98 จุด, ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ลดลง 10.00 จุด, ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ลดลง 6.76 จุด
  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (7 ธ.ค.61) 1,649.99 จุด ลดลง 3.74 จุด (-0.23%)
  • นักลงทุนต่างชาติต่างชาติขายสุทธิ 1,151.77 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค.62 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (10 ธ.ค.61) ปิดที่ 51.00 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 3.1%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ธ.ค.61) ที่ 2.88 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.86 มองกรอบวันนี้ 32.80-32.90 นักลงทุนกลับมาถือดอลล์ จากกังวล Brexit
  • เกษตรกรมึนราคาปาล์มยังไม่กระเตื้องแม้รัฐบาลจะส่งสัญญาณในการเร่งนำน้ำมันปาล์มดิบ 1.6 แสนตันให้ กฟผ.นำไปผลิตไฟฟ้าที่บางปะกงหน่วยที่ 3 แล้วก็ตาม ขณะที่ราคาปาล์มตลาดโลกปี 2562 สต๊อกยังสูงสัญญาณร้ายราคาที่ยังคงส่อแววตกต่ำ โรงงานแนะคุมกำเนิดโรงสกัดเพิ่มขึ้นเหตุทำต้นทุนผลิตสูงแข่งเพื่อนบ้านไม่ได้ ระยะกลางและยาวต้องร่งรับมือมาตรฐาน RSPO และยกระดับสู่ไบโออีโคโนมี
  • เดินรถไฟฟ้าสายสีม่วงใต้ ยังไม่ตกผลึก บอร์ด รฟม.สั่งศึกษา เพิ่ม รวมแพกเกจเดินรถ บวกก่อสร้างงานโยธาอีกเกือบ 8 หมื่นล้านเอกชนร่วม ลงทุนเบ็ดเสร็จ PPP 100% "ผู้ว่าฯ รฟม." ศึกษาเผื่อให้รอบด้าน ส่วนการประมูล งานโยธา ยังเดินคู่ขนาน รอเคลียร์พื้นที่ไซต์ก่อสร้าง
  • กระทรวงการคลังประกาศขายหุ้นบริษัทเอกชนล็อตแรกที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์-ถือหุ้นต่ำกว่า 50% จำนวน 18 แห่ง กว่า 3.3 ล้านหุ้น ทั้งหุ้นโรงพยาบาล อาบอบนวดเครือเดวิส เดินเรือทะเล เหมืองแร่ บริษัทน้ำตาล รมว.คลังย้ำราคาต้องดี คาดผู้ถือหุ้น-ญาติของผู้ถูกยึดทรัพย์ตามซื้อคืน
  • ผู้บริหารพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงินและธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เผยภาพรวมการซื้อขายตราสารหนี้ในตลาดรอง ทั้งพันธบัตรภาครัฐและหุ้นกู้เอกชนเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยธนาคารเป็นผู้นำในธุรกรรมนี้เพราะได้เสนอทางเลือกลงทุนให้ลูกค้าเพิ่ม เป็นการเพิ่มสภาพคล่องให้ตลาดตราสารหนี้ซึ่งเป็นการร่วมพัฒนาตลาดทุนไทยให้ก้าวหน้ามากขึ้น โดยปี 2561 ธนาคารมีปริมาณธุรกรรมของลูกค้าเฉลี่ยเดือนละไม่ต่ำกว่า 100 รายการ โดยเฉพาะจำนวนธุรกรรมของลูกค้าบุคคลเติบโตกว่า 30% จากลูกค้าเดิมที่ยังคงทำธุรกรรมต่อเนื่อง รวมถึงลูกค้าใหม่ที่ให้ความสนใจเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้ฐานลูกค้าธนาคารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 1,500 ราย รวมเป็น 2,200 ราย เติบโตกว่า 50% ลูกค้าบุคคลส่วนใหญ่สนใจลงทุนหุ้นกู้เอกชนตลาดรองเพิ่มขึ้น 36% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา
  • สศค.เร่งยกร่างกฎหมายจัดตั้งแบงก์ชุมชน แจงกำลังเปิดรับฟังความคิดเห็นเพื่อจัดทำร่างสุดท้าย เสนอสนช.ปีหน้า
  • บีโอไอเตรียมนำผู้ผลิตชิ้นส่วนไทยบุกขยายตลาดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เน้นจับคู่ธุรกิจและเจรจาซื้อขายชิ้นส่วนกับบริษัทชั้นนำในกลุ่มยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องใช้ไฟฟ้า และอุปกรณ์ทางการแพทย์

*หุ้นเด่นวันนี้

  • SPORT-W7 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ.สยามสปอร์ต ซินดิเคท (SPORT)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 84,401,890 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หุ้น อายุ 9 เดือน อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 0.20 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 ธ.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 29 ส.ค.62
  • BTS-W4 (ใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ ของบมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (BTS)) เทรดวันนี้วันแรก มีจำนวน 1,315,710,907 หน่วย ราคาใบสำคัญแสดงสิทธิ 0.00 บาท/หน่วย อายุ 1 ปี อัตราการใช้สิทธิ 1 ใบสำคัญแสดงสิทธิต่อ 1 หุ้นสามัญใหม่ ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 10.50 บาท กำหนดใช้สิทธิครั้งแรกวันที่ 28 ธ.ค.61 และใช้สิทธิครั้งสุดท้ายวันที่ 29 พ.ย.62
  • CK (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 34 บาท วันนี้คาดประกาศผลยื่นซองเทคนิครถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินมูลค่า 2.24 แสนล้านบาท น่าจะมีแรงเก็งกำไรเข้ามาใน CK ที่เข้ารวมกับกลุ่ม CP หลังจากนี้จะมี TOR ออกมาอีกมากเพื่อกระตุ้นการลงทุน มูลค่ารวมกว่า 1 ล้านล้านบาท คาดว่าจะหนุน Backlog ของ CK ให้แตะ 1 แสนล้านบาท อีกครั้ง จากปัจจุบันที่มีราว 5.5 หมื่นล้านบาท ด้านราคาหุ้น 1 เดือนที่ผ่านมาเริ่ม Outperform กลุ่มรับเหมา และ NVDR ซื้อเพิ่มใน พ.ย.-ธ.ค. 18 รวม 7.97 ล้านหุ้น ทำให้ยอดสะสมทำจุดสูงสุดในรอบ 18 เดือนที่ 64.35 ล้านหุ้น อย่างไรก็ตาม ในเชิง Valuation ยัง Discount NAV ของบริษัทลูก (BEM, CKP, TTW) อยู่ราว 30%
  • BGRIM (เคทีบี) "ซื้อ"เป้า 39 บาท หลังปัจจัย Overhang คลี่คลาย ราคาควรกลับมาสะท้อนกำไร โดยมีมุมมองเป็นบวกหลังการจัด Opportunity day จาก 1) บริษัทมั่นใจการต่ออายุ SPP สามารถทำได้หลัง กบง. ให้ผู้ประกอบการมีสิทธิเลือก Scheme การต่ออายุ SPP โดยรอ กพช. อนุมัติ คาดประกาศได้ช่วง Q1/62 ปลดล็อคปัจจัย Overhang ราคาหุ้น 2) รุกลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ล่าสุดให้ความสนใจในไต้หวัน ฟิลิปปินส์ เพิ่มเติมจาก เวียดนาม ลาว มาเลเซีย กัมพูชา และ เกาหลีใต้ โดยไม่จำกัดชนิดพลังงาน เพิ่มโอกาสในการเติบโตและมุ่งสู่เป้าหมายมีกำลังการผลิตรวม 5GW ในปี 2566 จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวมราว 2.9GW 3) ผลงานปี 2562 โตโดดเด่น บริษัทคาดรายได้อยู่ในระดับ 4.2 หมื่นล้านบาท (+20% YoY) จากโรงไฟฟ้าใหม่ (อยู่ในกรอบที่ประเมิน) และช่วยหนุนกำไรปกติคาดเติบโต +70% YoY

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ