ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,633.62 จุด ลดลง 16.37 จุด (-0.99%) มูลค่าการซื้อขาย 42,897.10 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอดทั้งวัน โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,647.88 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,633.11 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 315 หลักทรัพย์ ลดลง 1,098 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 358 หลักทรัพย์
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งตัวลงชดเชยเมื่อวานนี้ที่ตลาดต่างประเทศต่างปรับตัวลงกันทั่วหน้า ขณะที่ตลาดบ้านเราปิดทำการไป โดยดัชนีฯได้แกว่ง Sideway Down แต่ในระหว่างเทรดช่วงบ่ายดัชนีฯรีบาวด์ได้บ้างด้วยการลดช่วงลบลง จากปัจจัยบวกในประเด็นการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้า ในเรื่องการปลดล็อคพรรคการเมือง และกรอบเวลาการเลือกตั้งที่ชัดเจน
อย่างไรก็ดี ตลาดภูมิภาควันนี้เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ โดยปัจจัยเสี่ยงยังเป็นเรื่องของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ที่มีความเปราะบาง หลังจากที่มีการจับกุมผู้บริหารของบริษัท หัวเว่ย พร้อมให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 13 ธ.ค.นี้ และติดตามตัวเลข PMI ภาคการผลิตของยูโรโซน ส่วนสัปดาห์หน้าก็ยังจะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และการประชุมคณะกรรมนโยบายการเงิน (กนง.)
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) นายวีระวัฒน์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังพักตัวอยู่ โดยดัชนีฯอาจจะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideway ถึง Sideway Down จากปัจจัยเสี่ยงสงครามการค้า พร้อมให้แนวรับ 1,630-1,620 จุด ส่วนแนวต้าน 1,650 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 3,103.85 ล้านบาท ปิดที่ 70.25 บาท ลดลง 1.25 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 2,836.11 ล้านบาท ปิดที่ 132.00 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,568.29 ล้านบาท ปิดที่ 49.25 บาท ลดลง 0.25 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,861.03 ล้านบาท ปิดที่ 63.50 บาท ลดลง 1.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,607.73 ล้านบาท ปิดที่ 191.00 บาท ลดลง 1.50 บาท