ตลาดหลักทรัพย์ปิดวันนี้ที่ระดับ 1,634.88 จุด เพิ่มขึ้น 1.26 จุด (+0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 36,430.47 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ โดยดัชนีฯแตะจุดสูงสุดที่ 1,644.90 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,632.34 จุด
ส่วนหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงวันนี้ เพิ่มขึ้น 418 หลักทรัพย์ ลดลง 758 หลักทรัพย์ และไม่เปลี่ยนแปลง 578 หลักทรัพย์
น.ส.อาภาภรณ์ แสวงพรรค ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัยหลักทรัพย์ บล.ดีบีเอส วิคเคอร์ส(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นในช่วงบ่ายลดช่วงบวกลงจากช่วงเช้า โดยในช่วง 1-2 วันนี้หากดัชนีฯยังไม่ผ่าน 1,650 จุด มีโอกาสที่จะถอยลงมาแถว 1,630-1,620 จุด ซึ่งหากยังไม่ผ่านคนที่เล่นเทรดดิ้งก็แนะนำให้ขายออกไปก่อน
ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ในแดนบวกกัน จากปัจจัยนอกประเทศดีขึ้น หลังผ่อนคลายสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนได้ในช่วงสั้น โดยสหรัฐฯมีโอกาสที่จะเจรจาการค้ากับจีนได้ และ CFO ของบริษัท หัวเว่ย ก็ได้รับการประกันตัว
อย่างไรก็ดี ตลาดบ้านเราไม่มีปัจจัยกระตุ้นเด่นชัดในช่วงนี้ แม้ว่าราคาน้ำมันจะดีดขึ้นได้บ้างแต่ก็ไม่แข็งแรงมาก ซึ่งทำให้มาช่วยหนุนกลุ่มพลังงานไม่ได้ และกลุ่มพลังงานก็เป็นหุ้นที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่สุดในตลาดฯ ทำให้ตลาดบ้านเราวันนี้ดูอ่อนกว่าภูมิภาค พร้อมให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ๆ ต่อไป
แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ (13 ธ.ค.) น.ส.อาภาภรณ์ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะแกว่งแคบ พร้อมให้แนวรับ 1,625 จุด ส่วนแนวต้าน 1,645 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTT มูลค่าการซื้อขาย 2,725.19 ล้านบาท ปิดที่ 49.00 บาท ลดลง 0.25 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,666.70 ล้านบาท ปิดที่ 190.00 บาท ลดลง 1.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,542.26 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,411.56 ล้านบาท ปิดที่ 134.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 1,274.42 ล้านบาท ปิดที่ 64.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท