ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,633.58 จุด ลดลง 1.30 จุด (-0.08%) มูลค่าการซื้อขาย 16,938.74 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ จนมาช่วงท้ายการเทรดภาคเช้าดัชนีฯได้เคลื่อนไหวมาอยู่ในแดนลบ โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,642.20 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,631.49 จุด
นายศราวุธ เตโชชวลิต ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.อาร์เอชบี (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ ขณะที่ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่เช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวกกัน ภายหลังจากประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน มีแนวโน้มดีขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดก็มีกระแสข่าวออกมาว่า จีนเตรียมเปลี่ยนแผนด้วยการเปิดตลาดให้ต่างชาติเข้าไปค้าขายได้มากขึ้น
ส่วนบ้านเราแม้จะมีปัจจัยหนุนจากประเด็นการเลือกตั้งในประเทศที่มีความคืบหน้า แต่ตลาดฯ ยังไม่มีแรงดัน และนักลงทุนต่างชาติก็ยังไม่เข้ามาลงทุนจริง อีกทั้งยังเผชิญแรงกดดันจากหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่มีแรงขายออกมาหลังจากที่ค่าการกลั่นได้ลงมาอยู่ในระดับที่ต่ำ
อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยให้ติดตามทิศทางอัตราดอกเบี้ย และวันนี้ให้ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) โดยจับตาเรื่องการยุติการทำ QE
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ นายศราวุธ กล่าวว่า ตลาดฯคงจะยังแกว่งแคบ โดยมีแนวรับ 1,630 จุด ส่วนแนวต้าน 1,640 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 875.50 ล้านบาท ปิดที่ 132.50 บาท ลดลง 1.50 บาท
SCC มูลค่าการซื้อขาย 804.52 ล้านบาท ปิดที่ 434.00 บาท ลดลง 6.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 777.96 ล้านบาท ปิดที่ 190.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 674.81 ล้านบาท ปิดที่ 70.75 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง
PTT มูลค่าการซื้อขาย 644.08 ล้านบาท ปิดที่ 48.75 บาท ลดลง 0.25 บาท