WHA เตรียมแผนพัฒนาที่ดินฉะเชิงเทรากว่า 1 พันไร่รองรับลูกค้าอีคอมเมิร์ซระดับโลกหลังมีหลายรายสนใจ

ข่าวหุ้น-การเงิน Thursday December 20, 2018 16:57 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บมจ.ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมเพื่อรองรับธุรกิจ e-commerce ในจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยบริษัทมีที่ดินที่อยู่ระหว่างการซื้อและซื้อแล้วรวมกว่า 1 พันไร่ อย่างไรก็ดี บริษัทมองว่าพื้นที่ดังกล่าวจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนค่อนข้างมาก เนื่องจากพื้นที่ในระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางของฐานกระจายสินค้าในภูมิภาค และมีความได้เปรียบด้านการขนส่งโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานด้านต่าง ๆ

ทั้งนี้ ในช่วงเดือนส.ค.ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเซ็นสัญญาความร่วมมือ (MOU) กับลูกค้า e-commerce รายใหญ่จากจีน เพื่อให้เช่าพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรมขนาด 1.3 แสนตารางเมตร คาดว่าใช้เวลาสร้างประมาณ 1 ปี และสามารถรับรู้เป็นรายได้ภายในปี 62

ขณะเดียวกันบริษัทอยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ารายใหญ่อีกหลายราย เพื่อให้เข้าลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าว โดยบริษัทมองว่าจากแนวโน้มผู้ประกอบการจีนหลายบริษัทเริ่มมีการย้ายฐานการผลิตเพื่อส่งออกมาที่ไทยมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากผลกระทบด้านภาษีจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ประกอบกับปัจจุบันอัตราค่าแรงงานและราคาที่ดินในจีนปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งไทยถือเป็นฐานโลจิสติกส์ที่สำคัญในภูมิภาค พร้อมมีการเชื่อมต่อตามนโยบาย One Belt One Road ของจีน

นางสาวจรีพร กล่าวอีกว่า บริษัทคาดว่ารายได้ปี 62 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 10% จากปีนี้คาดทำได้กว่า 1 หมื่นล้านบาท แม้มองว่าภาวะเศรษฐกิจจะมีการชะลอตัว แต่จะกระทบบางธุรกิจเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันเริ่มเห็นแนวโน้มเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติ (FDI) กลับเข้ามามากขึ้น อีกทั้งรัฐบาลยังมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน อาทิ รถไฟความเร็วสูง สนามบินอู่ตะเภา และท่าเรือแหลมฉบัง ซึ่งจะทำให้มีเม็ดเงินลงทุนเข้ามาในระบบเศรษฐกิจมากขึ้น

ขณะเดียวกัน บริษัทมีที่ดินพร้อมขายจำนวน 1 หมื่นไร่ ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมรวม 10 แห่งใน EEC ซึ่งปัจจุบันราคาขายที่ดินมีการปรับตัวสูงขึ้นปีละกว่า 10% จากรัฐบาลมีการสนับสนุนทำนิคมอุตสาหกรรมเพื่อกระตุ้นการลงทุนในประเทศมากขึ้น

พร้อมกันนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจากับลูกค้าจำนวน 2-3 ราย เพื่อเช่าคลังสินค้าแบบ "built to suit" เพิ่มอีก 90,000-100,000 ตารางเมตร อย่างไรก็ตามหากไม่สามารถสรุปได้ภายในปีนี้ คาดว่าจะสรุปได้ในไตรมาสที่ 1/62 ปัจจุบันบริษัทมียอดเช่าคลังสินค้าเกินเป้าหมายที่วางไว้ 2-2.5 แสนตารางเมตรแล้ว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ