(เพิ่มเติม) ภาวะตลาดหุ้นไทย: แนวโน้มดัชนีเช้านี้ปรับลงตามตลาดภูมิภาคหลังราคาน้ำมันร่วงแรง-ปัจจัยสหรัฐยังกดดัน

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday December 25, 2018 09:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดว่าจะปรับตัวลงทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่ส่วนใหญ่ปรับตัวลง ขณะที่หลายตลาดในภูมิภาคปิดทำการในวันนี้ด้วย โดยปัจจัยที่กดดันยังมาจากสหรัฐเป็นหลัก ไม่ว่าจะเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ย, การปิดบางหน่วยงานภาครัฐฯของสหรัฐ รวมถึงประเด็นการปลดประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เป็นต้น

นอกจากนี้ ราคาน้ำมันก็ปรับตัวลงแรงมาก แต่วอลุ่มเทรดของตลาดโดยรวมคงจะยังบาง และคาดหวังจะได้แรงหนุนจากแรงซื้อของกองทุน LTF-RMF ซึ่งอาจทำให้ตลาดฯปรับตัวลงไม่มาก

พร้อมให้แนวรับ 1,585 จุด ส่วนแนวต้าน 1,600 จุด

ประเด็นพิจารณาการลงทุน

  • ตลาดหุ้นนิวยอร์กล่าสุด (24 ธ.ค.61) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 21,792.20 จุด ร่วงลง 653.17 จุด (-2.91%) ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,351.10 จุด ลดลง 65.52 จุด (-2.71%) และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,192.92 จุด ลดลง 140.08 จุด (-2.21%)
  • ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ลดลง 380.76 จุด, ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ลดลง 23.06 จุด, ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ลดลง 80.00 จุด

ส่วนตลาดหุ้นฮ่องกง ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ตลาดหุ้นมาเลเซีย และตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดทำการวันนี้เนื่องในวันคริสต์มาส

  • ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (24 ธ.ค.61) 1,591.29 จุด ลดลง 4.04 จุด (-0.25%)
  • นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 363.67 ล้านบาท เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.61
  • ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.พ.62 ในตลาดไนเม็กซ์ปิดทำการล่าสุด (24 ธ.ค.61) ปิดที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล ร่วงลง 3.06 ดอลลาร์ หรือ 6.7%
  • ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (24 ธ.ค.61) ที่ 3.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
  • เงินบาทเปิด 32.56/60 แนวโน้มแกว่งแคบ-วอลุ่มเบาบาง หลังตลาดตปท.ส่วนใหญ่หยุด
  • กบง.ลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 50 สต.ต่อลิตร สั่งผู้ค้าลดค่าการตลาดอีก 50 สต. กดราคาขายปลีกน้ำมันถูกลง 1 บาทวันนี้ เป็นของขวัญปีใหม่ คาด 4 เดือน เงินเข้ากองทุนน้ำมัน 1 หมื่นล้าน ชงคลังเลิกช่วยวินจักรยานยนต์ อ้างราคาน้ำมันลดต่อเนื่อง
  • คณะกรรมการคัดเลือกโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน เปิดซอง 4 กลุ่มซีพี พิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมที่จะให้กับรัฐ นัด 3 ม.ค. หารือวางกรอบการพิจารณา ก่อนเรียกซีพีมาเจรจา "วรวุฒิ" เผยหากตกลงกันได้ ก็จบ คาดสรุปกลางเดือนม.ค. เซ็นสัญญาภายใน 31 ม.ค. แต่ถ้าไม่จบ พร้อมเรียก "กลุ่ม บีเอส อาร์" เปิดซอง 4 เจรจาแทน
  • นิด้าประเมินเศรษฐกิจไทยปี 2562 ขยายตัว 3.7-4% จากแรงผลักดัน จากการลงทุนภาครัฐ ความชัดเจนทางการเมืองช่วยหนุนความคึกคัก
  • ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ แจงปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้น 0.25% ไม่กระทบ ผู้กู้และหนี้ครัวเรือน มองปัจจัยหลายมิติ ระบุปีหน้าเศรษฐกิจไทยยังเผชิญความผันผวนและมีความเสี่ยงหลายด้านต้องติดตามความชัดเจน

*หุ้นเด่นวันนี้

  • AAV (กรุงศรี) "ซื้อเก็งกำไร"เป้า Consensus 4.83 บาท ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงส่งผลบวกต่อต้นทุนการดำเนินงานลดลง (น้ำมันคิดเป็น 30% ของต้นทุนรวม) ล่าสุด AAV ทำสัญญาซื้อขายน้ำมันดิบร่วงหน้าไว้แล้วกว่า 50% ที่ราคาเฉลี่ย 77 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยต้นทุนทั้งปีของปีนี้ที่ 83 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (ทุกๆ 1 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ที่ลดลงจะเพิ่มกำไรให้กับ AAV ประมาณ 50 ล้านบาท)
  • MTC (ฟินันเซีย ไซรัส) "ซื้อ"เป้า 60 บาท คาดกำไรสุทธิ Q4/61 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1 พันล้านบาท +35% Y-Y จาก High Season และเพิ่มสาขาใหม่ต่อเนื่อง ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ที่ 3.8 พันล้านบาท +52% Y-Y และคาดโตต่อเนื่องอีก 42% Y-Y อยู่ที่ 5.4 พันล้านบาท ในปีหน้า อีกทั้งเป็นหุ้นที่มีโอกาสทุกทำ Window Dressing เพราะเป็น Domestic Play ที่ราคาหุ้นยังใกล้เคียงกับ Q3/61
  • AOT (ไอร่า) "ซื้อ"เป้า 83 บาท มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว คาดต้องใช้เวลาระยะหนึ่งเพื่อให้ผู้ประกอบการทัวร์จีน กลับไปทำการตลาด ด้านสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวประเมินว่า ม.ค.62 จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนการขยาย Terminal ที่สนามบินสุวรรณภูมิแม้สะดุดลง แต่คาดว่าสุดท้ายจะได้ข้อสรุปให้สร้างในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง เช่น การขยาย Terminal 1 ตามแผนเดิมที่เคยศึกษาไว้ หรือสร้าง Terminal 2 ตามแผนที่สรุปใหม่ ด้านประเด็นนักท่องเที่ยวจีนผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่คาดระยะยาวจะเติบโตได้ราว 5-10% ต่อปี (เดิมเติบโตได้ 20% ต่อปี) อย่างไรก็ตามคาดจะมีนักท่องเที่ยวจากอินเดียมาทดแทน โดยสมาคมฯประเมินว่า นักท่องเที่ยวส่วนนี้จะเติบโตจาก 1.5 ล้านคน เป็นราว 10 ล้านคน ภายใน 10 ปี (ปัจจุบันนักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 10.5 ล้านคนต่อปี)

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ