ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร-หุ้นกู้ TTA ที่ "BBB" แนวโน้ม "Stable"

ข่าวหุ้น-การเงิน Wednesday December 26, 2018 17:16 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรของ บมจ.โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (TTA) ที่ระดับ "BBB" พร้อมทั้งคงอันดับเครดิตหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของบริษัทที่ระดับ "BBB" ด้วยเช่นกัน

อันดับเครดิตยังคงสะท้อนถึงการมีขีดความสามารถในการแข่งขันในระดับปานกลางในธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองทางเรือและธุรกิจให้บริการวิศวกรรมนอกชายฝั่งของบริษัท ตลอดจนการสร้างความหลากหลายอย่างต่อเนื่องของประเภทธุรกิจที่บริษัทลงทุน และงบการเงินที่แข็งแรง

อย่างไรก็ตาม จุดแข็งดังกล่าวก็มีข้อจำกัดจากความไม่แน่นอนของลักษณะที่เป็นวงจรของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง รวมถึงผลการดำเนินงานที่อ่อนแอลงอย่างต่อเนื่องของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง ในขณะที่ความสำเร็จในการบริหารธุรกิจที่บริษัทได้ลงทุนนั้นยังไม่ปรากฏชัด

ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต

สถานะธุรกิจที่อยู่ในระดับปานกลาง ความเข้มแข็งของสถานะเครดิตของบริษัทมีธุรกิจที่มีความผันผวน 2 ธุรกิจซึ่งได้แก่ ธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญ โดยทั้งสองธุรกิจสร้างอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายโดยเฉลี่ยให้แก่บริษัทคิดเป็นประมาณ 70%-80%

ธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองของบริษัทมีตำแหน่งทางการตลาดที่สามารถแข่งขันได้จากผลของการดำเนินธุรกิจที่ยาวนานและการมีกองเรือที่มีความเข้มแข็ง โดยบริษัทเป็นเจ้าของเรือทั้งหมด 21 ลำซึ่งมีขนาดระวางบรรทุกเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นเป็น 55,528 ตัน (Dead Weight Tonnage -- DWT) จากการปรับปรุงกองเรืออย่างต่อเนื่อง ในขณะที่อายุเฉลี่ยของกองเรือยังคงอยู่ที่ประมาณ 11.5 ปี ทั้งนี้ อัตรากำไรของธุรกิจนี้มีความไม่แน่นอนโดยขึ้นอยู่กับค่าระวางเรือที่มีความผันผวนเป็นหลัก

ในขณะที่สถานะทางธุรกิจของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งขึ้นอยู่กับประวัติการดำเนินงานและความสามารถในการให้บริการ ทั้งนี้ บริษัทมีเรือให้บริการนอกชายฝั่งอยู่จำนวนทั้งหมด 7 ลำและยังมีเรือขุดเจาะชนิดสามขา (Jack-up Rig) อีกจำนวน 3 ลำซึ่งดำเนินงานโดยบริษัทในร่วมคือ บริษัท เอเชีย ออฟชอร์ ดริลลิ่ง จำกัด ผลการดำเนินงานของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งถดถอยลงอย่างต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาอันเป็นผลมาจากความต้องการบริการขุดเจาะนอกชายฝั่งของบริษัทสำรวจและผลิตก๊าซและน้ำมันที่ลดลง

สร้างความหลากหลายของประเภทธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทริสเรทติ้งยังได้พิจารณาถึงความพยายามในการเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจเพื่อจะช่วยลดความผันผวนจากธุรกิจหลักทั้ง 2 ประเภทของบริษัทด้วย ทั้งนี้ บริษัทได้ลงทุนในธุรกิจอื่น ๆ ที่มีลักษณะที่ไม่เป็นวัฏจักร เช่น ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ธุรกิจบริหารจัดการน้ำ และธุรกิจโลจิสติกส์ อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการบริหารธุรกิจที่บริษัทซื้อหรือลงทุนนั้นยังคงไม่เห็นชัดเจนและการลงทุนเหล่านั้นก็ยังไม่ได้สร้างผลตอบแทนที่มีนัยสำคัญต่อกลุ่มมากนัก

การฟื้นตัวของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองช่วยให้ภาพรวมของผลการดำเนินงานดีขึ้น การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของค่าขนส่งสินค้าในอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าแห้งเทกองตั้งแต่ปี 2559 ช่วยทำให้ผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทดีขึ้น โดยอัตราค่าระวางเรือโดยเฉลี่ยของบริษัทเพิ่มขึ้น 41.5% เป็น 11,275 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 จาก 7,966 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันในช่วงเดียวกันของปีก่อน ในขณะที่ต้นทุนดำเนินงานที่เป็นเงินสดก็ปรับเพิ่มขึ้นเพียง 6% เป็น 5,273 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวัน จากที่ระดับประมาณ 5,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อวันอันเป็นผลมาจากการปรับปรุงกองเรือ

ทั้งนี้ รายได้จากธุรกิจเรือขนส่งสินค้าในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 เพิ่มขึ้นถึง 40.1% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อนหน้า โดยสัดส่วนของรายได้จากธุรกิจนี้เพิ่มขึ้นเป็น 40% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2561 จาก 29% ของปีที่แล้ว

การต่อสัญญาให้บริการนอกชายฝั่งยังมีความไม่แน่นอน ทริสเรทติ้งประเมินว่าตลาดการให้บริการวิศวกรรมใต้น้ำยังคงเผชิญกับความท้าทายอยู่ ถึงแม้ว่าราคาน้ำมันดิบจะปรับตัวสูงขึ้นและเป็นผลดีต่อบริษัทสำรวจและผลิตน้ำมันและก๊าซ ทว่าบริษัทเหล่านี้ก็ยังคงมีความระมัดระวังเรื่องค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานซึ่งส่งผลทำให้กิจกรรมการขุดเจาะฟื้นตัวช้ากว่าที่คาด

ธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งของบริษัทนั้นยังคงประสบกับปัญหาอัตราการใช้งานกองเรือที่ต่ำ ทั้งนี้ บริษัทมีเรือให้บริการนอกชายฝั่งทั้งหมด 7 ลำ โดยมีเรือเพียง 3 ลำเท่านั้นที่ยังคงมีสัญญาจ้างงานอยู่ บริษัทได้วางแผนจะขายเรือ 4 ลำที่เหลือเพื่อที่จะลดค่าใช้จ่ายคงที่หากอุปสงค์ในตลาดมีจำกัด

การลดลงของมูลค่าสัญญาก็บ่งบอกถึงความท้าทายของผลการดำเนินงานในอนาคตด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน 2561 บริษัทมีมูลค่าสัญญาจ้างงานลดลงเหลือ 129 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยอายุสัญญาทั้งหมดจะเหลืออีกเพียง 1 ปีเท่านั้น นอกจากนี้ สัญญาจ้างงานสำหรับเรือขุดเจาะชนิดสามขาก็กำลังจะหมดสัญญาภายในปี 2562 อีกเช่นกัน ดังนั้น ทริสเรทติ้งจึงคาดว่าธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งของบริษัทอาจเผชิญกับความกดดันมากยิ่งขึ้นหลังจากปี 2562 เป็นต้นไปหากสัญญาจ้างงานไม่ได้รับการต่ออายุ

ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าผลการดำเนินงานของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองน่าจะปรับตัวดีขึ้นและเพียงพอที่จะชดเชยผลการดำเนินงานที่อ่อนตัวลงของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง ธุรกิจเรือขนส่งสินค้าจะสร้างผลกำไรที่ดีขึ้นจากผลของค่าเดินเรือที่ค่อย ๆ ปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่แนวโน้มของธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่งน่าจะยังเผชิญกับความยากลำบากอยู่เนื่องจากอัตราการใช้งานของเรืออาจจะลดลงอีกหลักจากสัญญาจ้างงานที่มีอยู่หมดอายุลง ภายใต้สมมติฐานขั้นพื้นฐาน ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงสร้างอัตรากำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่ายให้อยู่ในช่วง 1,800-2,000 ล้านบาทต่อปีและมีเงินทุนจากการดำเนินงานที่ประมาณ 1,500 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2562-2564 ได้ อย่างไรก็ตาม อัตราส่วนเงินทุนจากการดำเนินงานต่อหนี้สินทางการเงินคาดว่าจะยังคงอยู่สูงกว่าระดับ 45%

งบการเงินที่แข็งแรงยังคงค้ำจุนอันดับเครดิต เป็นปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยให้บริษัททนต่อผลกระทบจากผลการดำเนินงานที่ผันผวนได้ ทั้งนี้ อัตราส่วนหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัทยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ 14.9% เนื่องจากบริษัทยังมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดอยู่ประมาณ 5,100 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2561 อย่างไรก็ตาม เงินสดในมือก็ลดลงโดยลำดับจากการลงทุนและการซื้อกิจการอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

ทริสเรทติ้งคาดว่าเงินลงทุนของบริษัทจะอยู่ที่ประมาณ 1,800 ล้านบาทในปี 2562 และประมาณ 500-600 ล้านบาทต่อปีในระหว่างปี 2563-2564 ทั้งนี้ บริษัทได้สำรองงบลงทุนจำนวนประมาณ 1,100 ล้านบาทไว้สำหรับซื้อเรือขนส่งสินค้ามือสองจำนวน 2 ลำในปี 2562 โดยบริษัทคาดว่าจะใช้เงินกู้จากธนาคารเป็นแหล่งเงินทุนในสัดส่วน 50% ทริสเรทติ้งคาดว่าหนี้สินทางการเงินสุทธิต่อเงินทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 20% ในช่วง 3 ปีข้างหน้า

สภาพคล่องยังคงเพียงพอ แหล่งเงินทุนของบริษัทจะยังคงมีมากพอสำหรับการใช้จ่ายในช่วง 12 เดือนข้างหน้า โดยแหล่งเงินทุนประกอบด้วยเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดจำนวน 5,100 ล้านบาท ณ เดือนกันยายน 2561 รวมถึงเงินทุนจากการดำเนินงานอีกอย่างต่ำประมาณ 1,800 ล้านบาท และเงินซึ่งได้รับจากการจำหน่ายหุ้นกู้เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมาอีกจำนวน 1,500 ล้านบาท ในขณะที่กระแสเงินสดออกในช่วง 12 เดือนข้างหน้าจะประกอบด้วยการผ่อนชำระเงินกู้จำนวน 1,660 ล้านบาท เงินลงทุนต่าง ๆ อีกจำนวนประมาณ 1,800 ล้านบาท และการจ่ายเงินปันผลซึ่งคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท

แนวโน้มอันดับเครดิต "Stable" หรือ "คงที่" สะท้อนถึงความคาดหมายของทริสเรทติ้งว่าทั้งธุรกิจเรือขนส่งสินค้าแห้งเทกองและธุรกิจบริการนอกชายฝั่งจะยังคงเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้และผลกำไรของบริษัทต่อไป จากแผนการลงทุนที่บริษัทวางไว้ทำให้คาดว่างบการเงินที่แข็งแรงและสถานะสภาพคล่องที่เพียงพอของบริษัทน่าจะยังคงเป็นปัจจัยหลักที่ช่วยค้ำจุนอันดับเครดิตในช่วงอีก 1-2 ปีข้างหน้าต่อไปได้

ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง โอกาสในการปรับเพิ่มอันดับเครดิตของบริษัทมีค่อนข้างจำกัดในระยะสั้นจากความไม่แน่นอนของผลประกอบการในธุรกิจขนส่งสินค้าแห้งเทกองทางเรือและธุรกิจให้บริการนอกชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม อันดับเครดิตอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นได้หากผลประกอบการของบริษัทดีกว่าที่ประมาณการไว้เป็นระยะเวลานาน ซึ่งกรณีนี้อาจเกิดขึ้นได้หากบริษัทประสบความสำเร็จในการสร้างความหลากหลายในการลงทุนจนส่งผลทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดที่มั่นคงมากยิ่งขึ้นในขณะเดียวกันก็สามารถดำรงสถานะงบการเงินที่แข็งแกร่งเอาไว้ได้

อันดับเครดิตหรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากผลประกอบการของบริษัทหรือกระแสเงินสดถดถอยลงจากประมาณการปัจจุบันอย่างมีนัยสำคัญ ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวอาจเกิดขึ้นได้จากภาวะตลาดของธุรกิจเรือขนส่งสินค้าและการให้บริการนอกชายฝั่งที่อ่อนแอลงและจากการขาดทุนอย่างหนักของธุรกิจอื่นที่บริษัทได้ลงทุนไป


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ