SAAM พร้อมเข้าเทรดวันแรก 7 ม.ค. มั่นใจนลท.ตอบรับดี ระดมทุนรุกธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในตปท.

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 4, 2019 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายพดด้วง คงคามี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เอสเอเอเอ็ม เอ็นเนอร์ยี่ ดีเวลลอปเมนท์ (SAAM) ผู้พัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนอิสระ เปิดเผยว่า บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าหุ้น SAAM ที่จะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก ในวันที่ 7 มกราคม 2562 จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างแน่นอน เนื่องจากที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้เดินสายให้ข้อมูลแก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง นักลงทุนมีความเข้าใจในโมเดลธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีจุดเด่นจากพื้นฐานธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานที่มั่นคงและแน่นอนจากการทำสัญญาระยะยาวกับลูกค้า และมองเห็นโอกาสการเติบโตจากการรุกธุรกิจในต่างประเทศของกลุ่มบริษัทฯ

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ ส่วนใหญ่บริษัทฯ จะนำไปใช้เป็นเงินทุนสำหรับธุรกิจที่จะสร้างการเติบโตในอนาคต โดยบริษัทฯ วางแผนที่จะใช้เป็นเงินทุนสำหรับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งยังใช้เป็นเงินทุนเพื่อเข้าร่วมลงทุนในบริษัทอื่น ซึ่งเป็นผู้ดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินงานโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน ใช้ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และที่เหลือใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานของบริษัทฯ

ด้านนายชาญชัย กงทองลักษณ์ กรรมการอำนวยการ บล.ทรีนีตี้ ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ SAAM เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ในวันที่ 24-27 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา โดยได้มีการเสนอขายหุ้น IPO จำนวน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 26.67 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ จำนวน 300 ล้านหุ้น มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 150 ล้านบาท ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ ที่ราคา IPO หุ้นละ 1.80 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขายรวม 144 ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 540 ล้านบาท นักลงทุนได้ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น เนื่องจากมองเห็นปัจจัยพื้นฐานธุรกิจของ SAAM ที่มีผลการดำเนินงานที่มั่นคง และมองเห็นแนวโน้มการเติบโตในอนาคต

"การที่ SAAM จะเข้าเทรดวันแรกในวันที่ 7 ม.ค. 2562 นี้ เชื่อว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนเพราะโมเดลธุรกิจที่มีความมั่นคงและแน่นอนของรายได้ระยะยาว และมีอัตราการทำกำไรที่ดีสะท้อนจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมา รวมทั้งในอนาคตยังมีโอกาสขยายตัวได้ทั้งในประเทศและต่างประเทศ" นายชาญชัย กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ