นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.คอมเซเว่น (COM7) เปิดเผยว่า การที่บริษัท แอปเปิล อิงค์ ปรับลดประมาณการรายได้ประจำไตรมาสแรกของปีงบการเงิน 2562 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 29 ธ.ค.61 จากยอดขายไอโฟนที่ชะลอตัวลงในจีนนั้น เชื่อว่าจะไม่กระทบกับผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทแน่นอน เนื่องจากบริษัทเป็นผู้จำหน่ายสินค้าแอปเปิลในประเทศไทย ซึ่งยังเติบโตอยู่ แม้ว่ากระแสไอโฟนรุ่นใหม่ อาจจะไม่เติบโตเท่าปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีราคาที่สูงเมื่อเทียบกับรายได้ของประชากรไทยโดยเฉลี่ย แต่ก็นับว่ายังคงมียอดขายที่ดี
ขณะเดียวกันบริษัทมีการกระจายพอร์ตการจำหน่ายสินค้า เพื่อลดความเสี่ยงการพึ่งพารายได้จากสินค้าใดสินค้าหนึ่งมาตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว และยังได้เพิ่มกลยุทธ์ ด้วยการสั่งสินค้าไอโฟนรุ่นเก่า มาขายอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อปานกลาง
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าอื่นของแอปเปิล ยังคงเติบโตมากกว่า 2 หลัก ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ของแอปเปิล เช่น MacBook, Apple Watch, iPad และทุกพอร์ตธุรกิจของ COM7 ก็มีการเติบโตดี โดยสังเกตได้จากช่องทางการจำหน่ายสินค้าของบริษัท ที่มีช่องทางการจำหน่ายสินค้าอื่นที่ไม่ใช่แอปเปิล เช่น ร้าน BaNANA, BKK และล่าสุด KingKong Phone ซึ่งรวมกันมีมากกว่า 500 สาขา ในขณะที่ร้าน Studio7 มี 100 สาขา
สำหรับภาพรวมธุรกิจปี 2561 เป็นไปตามกลยุทธ์ที่วางไว้ สอดรับกับการเติบโตของตลาดสมาร์ทโฟนในประเทศไทยที่ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เนื่องจากสมาร์ทโฟนจัดเป็นสินค้าที่มีความจำเป็นต่อผู้บริโภคค่อนข้างมาก และเป็นสินค้าที่มีอัตราการเปลี่ยนรุ่นค่อนข้างสูง หลังจากที่มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้ง การเป็นพันธมิตรในกลุ่มบมจ.ทรูคอร์ปอเรชั่น (TRUE) จัดโปรโมชั่นทางการตลาดที่หลากหลาย ส่งผลให้ราคาเฉลี่ยมีความสมเหตุสมผลและจูงใจ ให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น
โดยแนวโน้มยอดขายในไตรมาส 4/61 บริษัทเชื่อมั่นว่าได้เห็นการเติบโตที่น่าพอใจ เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซันของตลาดสมาร์ทโฟน รวมไปถึงสินค้าอิเล็คทรอนิกส์และอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ ประกอบกับเป็นช่วงที่มีการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ค่อนข้างมาก
สำหรับในปี 2560 บริษัทมีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มสินค้าโทรศัพท์มือถือ 54% ไอที 27% อุปกรณ์เสริม 17% และรายได้จากการให้บริการ 2%
ราคาหุ้น COM7 ล่าสุดอยู่ที่ 13.70 บาท เพิ่มขึ้น 0.20 บาท หรือ 1.48% หลังจากที่ปรับลงไปแตะต่ำสุดรอบกว่า 5 เดือนที่ระดับ 11.50 บาท เมื่อวันที่ 4 ม.ค.ที่ผ่านมา