หุ้นในกลุ่มผู้ส่งออกอาหารทะเลขยับขึ้นทั่วหน้า เมื่อเวลา 10.01 น. นำโดยหุ้น CFRESH บวก 6.50% มาอยู่ที่ 4.26 บาท เพิ่มขึ้น 0.26 บาท มูลค่าซื้อขาย 457,540 บาท
หุ้น ASIAN บวก 5.26% มาอยู่ที่ 8.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท มูลค่าซื้อขาย 22.83 ล้านบาท
หุ้น TU บวก 4.91% มาอยู่ที่ 17.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.80 บาท มูลค่าซื้อขาย 79.08 ล้านบาท
บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ฯว่า สหภาพยุโรป (EU) ปลดใบเหลืองการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ของไทย หลังจากที่ให้ใบเหลืองไทยเกือบ 4 ปี ตั้งแต่ เม.ย.2558 แต่ไม่กระทบอะไรต่อการส่งออก แม้ที่ผ่านมาโดนใบเหลืองแต่ก็ส่งออกได้ปกติ แต่ถือเป็นข่าวดีต่อประมงไทย ที่ไม่ต้องอยู่ในโซนที่มีความเสี่ยงถูกระงับการนำเข้าสินค้าประมงของไทย (ถ้าได้ใบแดง) เป็น Sentiment เชิงบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่าง บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF), บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) และบมจ.ซีเฟรชอินดัสตรี (CFRESH)
ด้านบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น TU มองประเด็นการปลดใบเหลืองเป็น Sentiment บวกอ่อน ๆ อย่างไรก็ตามในเชิงปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง กล่าวคือยังคาดกำไรไตรมาส 4/61 และไตรมาส 1/62 เติบโตดีจาก Margin ในระดับ 14%
ส่วนบล.เคทีบี (ประเทสไทย) แนะ"ซื้อ"หุ้น TU มีมุมมองเป็นบวกต่อข่าว EU พิจารณาปลดใบเหลืองประมงของประเทศไทย คาดว่าจะส่งผลดีต่อกลุ่มอาหารทะเล เช่น TU, CFRESH, บมจ.ห้องเย็นเอเชี่ยน ซีฟู้ด (ASIAN) ทั้งนี้ผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ได้แจ้งว่า ไม่ได้มีปัญหาเรื่องประมงผิดกฎหมาย แต่คาดว่า จะได้รับผลดีเชิงจิตวิทยา แต่คาดว่าผู้บริโภคบางส่วนที่เคยมีความกังวลหรือไม่มั่นใจสินค้าไทยจะซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น สำหรับ TU ต้นทุนปลาทูน่ายังถูกในช่วง 1,300-1,600 เหรียญสหรัฐ/ตัน ซึ่งช่วยหนุนให้อัตรากำไรปี 2561 ดีขึ้นเป็น 14%-15% ให้ราคาเป้าหมาย PER 19xของกำไรปกติ (เท่ากับค่าเฉลี่ย PER 5 ปีย้อนหลัง) ได้ราคาเป้าหมาย 20 บาท
สำหรับบล.กรุงศรี แนะ"ซื้อเก็งกำไร"หุ้น TU ให้ราคาเป้าหมาย 19 บาท ได้ประโยชน์โดยตรงจากข่าว EU ปลดใบเหลืองให้กับสินค้าประมงนำเข้าจากไทย เนื่องจาก TU มีสัดส่วนรายได้ในตลาดยุโรปคิดเป็น 30% ของรายได้รวม
บล.เอเชีย เวลท์ แนะ"ซื้อ"หุ้น TU ให้ราคาเป้าหมาย 21 บาท EU ประกาศปลดใบเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย เป็นปัจจัยบวกต่อกลุ่มผู้ส่งออกอาหารทะเล โดยเฉพาะ TU