(เพิ่มเติม) BAY คาดสินเชื่อปี 62 เติบโต 6-8% ตามศก.ไทยขยายตัวจากความชัดเจนเลือกตั้งหนุนการใช้จ่าย ,ลงทุนภาครัฐ-เอกชน

ข่าวหุ้น-การเงิน Friday January 18, 2019 10:55 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารคาดการณ์อัตราการเติบโตของสินเชื่อทั้งปี 62 จะอยู่ในกรอบ 6-8% โดยแนวโน้มธุรกิจในกรณีที่มาตรการกีดกันทางการค้าและผลกระทบยังอยู่ในวงจำกัด เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวต่อเนื่อง อย่างทั่วถึงมากขึ้น และจะเติบโตในระดับที่ 4.1%

ทั้งนี้ มีปัจจัยสนับสนุน อาทิ ความชัดเจนของนโยบายเศรษฐกิจภายหลังการเลือกตั้ง การเติบโตของการใช้จ่ายภายในประเทศที่มีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ การฟื้นตัวของการลงทุนภาคเอกชนที่ชัดเจนขึ้น ผนวกกับอานิสงส์จากมาตรการเร่งรัดโครงการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ (PPP fast track) และการเดินหน้าลงทุนของรัฐบาลในโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ของ BAY เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในปี 61 มีกำไรสุทธิจำนวน 2.48 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.9% จากปี 60 มีปัจจัยขับเคลื่อนจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิจากการเติบโตของเงินให้สินเชื่อที่สูงถึง 10.4% และการเพิ่มขึ้นของรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม รวมทั้งการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพ ตอกย้ำศักยภาพที่แข็งแกร่งของกรุงศรีและความคล่องตัวในการปรับพอร์ตสินเชื่อในกลุ่มธุรกิจที่ให้ผลตอบแทนสูง

"แม้ว่ามีปัจจัยท้าทายจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ กรุงศรียังคงส่งมอบผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งในปี 61 ด้วยผลกำไรสุทธิสูงถึง 2.48 หมื่นล้านบาท เงินให้สินเชื่อของกรุงศรีเติบโตเพิ่มขึ้นสูงถึง 10.4% และมีการเติบโตในทุกกลุ่มธุรกิจ การบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างรอบคอบทำให้คุณภาพสินทรัพย์ยังเป็นที่น่าพอใจ อัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ 2.06% และอัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้อยู่ที่ระดับสูงที่ 165.8% ความสำเร็จดังกล่าวเป็นเครื่องพิสูจน์ได้ดีถึงผลจากการดำเนินงานตามแผนธุรกิจและสะท้อนศักยภาพความคล่องตัวในการปรับตัวเพื่อขยายพอร์ตสินเชื่อในกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนสูงเพื่อบรรลุเป้าหมายการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว"

สำหรับปี 61 การเติบโตของเงินให้สินเชื่อ อยู่ที่ 10.4% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 1.61 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือน ธ.ค.60 โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลักมาจากสินเชื่อเพื่อรายย่อยที่เพิ่มขึ้น 14.3% ขณะที่สินเชื่อลูกค้าบรรษัทญี่ปุ่นและบรรษัทข้ามชาติ (JPC/MNC) และสินเชื่อลูกค้าธุรกิจ SME เติบโตที่ 19.1% และ 14.8% ตามลำดับ

เงินรับฝาก เพิ่มขึ้น 8.1% หรือเพิ่มขึ้นจำนวน 1.07 แสนล้านบาท เมื่อเทียบกับ ณ สิ้นเดือน ธ.ค.60 และส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่ 3.81% เทียบกับ 3.74% ในปี 60 รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 7.2% จากปี 60 ปัจจัยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ รวมถึงค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมเพื่อค้าและปริวรรตเงินตราต่างประเทศและรายได้จากหนี้สูญรับคืน

อัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ อยู่ที่ 47.2% ปรับตัวดีขึ้นจาก 48.0% ในปี 60 สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) อยู่ที่ระดับ 2.06% อัตราส่วนเงินสำรองต่อสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 165.8% อัตราส่วนเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง อยู่ที่ระดับ 15.13%

ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 กรุงศรีซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจการเงินที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 5 ของไทยด้านสินทรัพย์ สินเชื่อและเงินฝาก และเป็นหนึ่งในห้าสถาบันการเงินที่มีความสำคัญเชิงระบบ (D-SIB) มีสินเชื่อรวม 1.67 ล้านล้านบาท เงินรับฝาก 1.43 ล้านล้านบาท และสินทรัพย์รวม 2.2 ล้านล้านบาท ขณะที่เงินกองทุนของธนาคารอยู่ในระดับแข็งแกร่งที่ 228.98 พันล้านบาทหรือเทียบเท่า 15.13% ของสินทรัพย์เสี่ยง โดยเป็นเงินกองทุนชั้นที่ 1 ที่เป็นของเจ้าของคิดเป็น 11.59%


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ