SET ช่วงเช้าปิดที่ระดับ 1,578.39 จุด ลดลง 1.91 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 22,132.59 ล้านบาท นักวิเคราะห์ฯเผยตลาดหุ้นไทยแกว่งผันผวนค่อนข้างมาก แม้จะปรับตัวขึ้นในช่วงแรกรับ Sentiment บวกจากตลาดต่างประเทศผ่อนคลายกังวลสงครามการค้า แต่แรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์หนักหน่วงหลังกำไร SCB ต่ำกว่าคาดส่งผลให้เกิดความกังวลภาพรวมกลุ่มแบงก์ ส่วนแรงซื้อต่างชาติช่วงนี้แม้มีต่อเนื่องแต่ยังไม่โดดเด่นมาก ขณะที่ยังรอความชัดเจนวันเลือกตั้งทำให้ภาพรวมตลาดน่าจะยังผันผวนต่อไปในช่วงบ่าย มองแนวรับ 1,575 จุด และแนวต้าน 1,590 จุด
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ปิดช่วงเช้าวันนี้ที่ระดับ 1,578.39 จุด ลดลง 1.91 จุด (-0.12%) มูลค่าการซื้อขาย 22,132.59 ล้านบาท
การซื้อขายหุ้นช่วงเช้าวันนี้ ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวกและลบ โดยดัชนีปรับตัวขึ้นทำระดับสูงสุดที่ 1,588.75 จุด และทำระดับต่ำสุดที่ระดับ 1,578.03 จุด
นางสาวธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป(ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้เคลื่อนไหวค่อนข้างผันผวน โดยต้นภาคเช้าดัชนีปรับตัวขึ้นมาราว 8 จุดขานรับ Sentiment บวกจากต่างประเทศต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังมีข่าวสหรัฐมีแผนจะผ่อนคลายภาษีนำเข้าสินค้าจีน ทำให้ตลาดหุ้นภูมิภาคปรับตัวขึ้นได้ค่อนข้างดี
แต่สำหรับตลาดหุ้นไทยเผชิญแรงกดดันจากผลประกอบการของกลุ่มแบงก์ หลังจากธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) รายงานผลกำไรออกมาผิดจากคาด ทำให้ตลาดมีความกังวลต่อผลประกอบการของแบงก์อื่นที่ยังไม่ได้ประกาศออกมา ฉุดให้มีแรงขายหุ้นกลุ่มแบงก์ออกมาอย่างหนัก
ขณะที่ตลาดยังรอความชัดเจนที่มากขึ้นต่อการเลือกตั้งในประเทศ โดยเฉพาะการออกพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) ให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นทั่วการทั่วไปที่คาดว่าจะมีออกมาในสัปดาห์หน้า หลังจากนั้นภายใน 5 วัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะต้องกำหนดวันเลือกตั้งที่ชัดเจนออกมา
ส่วนการซื้อสุทธิของนักลงทุนต่างชาติในช่วงนี้แม้ว่าจะมีความต่อเนื่อง แต่ก็อยู่ในปริมาณไม่มากเมื่อกับที่ขายออกไปก่อนหน้านี้ และบางครั้งก็มีการเปิดสถานะ Short ในตลาดอนุพันธ์ด้วย ทำให้ภาพการลงทุนของต่างชาติยังไม่มีความชัดเจนมากนัก
แนวโน้มการซื้อขายภาคบ่าย คาดว่าตลาดจะยังคงผันผวนต่อไป และเคลื่อนไหวในกรอบไม่กว้างมากนัก โดยมองแนวรับที่ 1,575 จุด และแนวต้านที่ 1,590 จุด
ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
SCB มูลค่าการซื้อขาย 2,437.90 ล้านบาท ปิดที่ 128.50 บาท ลดลง 8.00 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,865.93 ล้านบาท ปิดที่ 181.50 บาท ลดลง 3.00 บาท
PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,077.80 ล้านบาท ปิดที่ 125.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
CPALL มูลค่าการซื้อขาย 1,002.69 ล้านบาท ปิดที่ 74.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 966.22 ล้านบาท ปิดที่ 199.50 บาท ลดลง 3.50 บาท