ฟิทช์ ให้อันดับเครดิตแก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิสกุลเงินบาทของ บล. เคทีบี (ประเทศไทย) ที่ "BB-(tha)"

ข่าวหุ้น-การเงิน Tuesday January 22, 2019 11:12 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศให้อันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาว (National Long-Term Rating) ที่ ‘BB-(tha)’ แก่หุ้นกู้ด้อยสิทธิ สกุลเงินบาท ของบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (หรือ KTBST; BB(tha)/แนวโน้มอันดับเครดิตมีเสถียรภาพ)

ทั้งนี้หุ้นกู้ด้อยสิทธิที่ KTBST จะออกเสนอขายจะมีมูลค่าไม่เกิน 400 ล้านบาท และจะมีอายุ 1.5 ปี โดยวัตถุประสงค์ในการออกหุ้นกู้ด้อยสิทธิคือเพื่อนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในธุรกิจซื้อขายหลักทรัพย์ของบริษัท

ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต

อันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวอยู่ต่ำกว่าอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBST ที่ ‘BB(tha)’ อยู่ 1 อันดับ เพื่อเป็นการสะท้อนถึงความเสี่ยงของการขาดทุนจากการชำระคืนเงินกู้ (loss severity risks) ของหุ้นกู้ด้อยสิทธิที่มีมากกว่าเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ที่ไม่ด้อยสิทธิ โดยผู้ถือหุ้นกู้ด้อยสิทธิจะมีลำดับสิทธิในการเรียกร้อง (priority of claims) ด้อยกว่าเจ้าหนี้สามัญ

ฟิทช์ไม่ได้ปรับลดอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวเพิ่มเติม เนื่องจากหุ้นกู้ด้อยสิทธินั้นไม่มีคุณสมบัติรองรับผลขาดทุนระหว่างการดำเนินกิจการ (going-concern loss absorption features) และไม่มีคุณสมบัติการแปลงเป็นทุน (equity conversion) ฟิทช์พิจารณาให้หุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวมีส่วนของหนี้ที่คิดเป็นทุน (equity credit) ที่ 0% เนื่องจากหุ้นกู้ด้อยสิทธิดังกล่าวมีอายุค่อนข้างสั้นและไม่ได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนับรวมเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างเงินทุนของบริษัท

ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตในอนาคต

การเปลี่ยนแปลงของอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวของ KTBST น่าจะส่งผลกระทบในทิศทางเดียวกันกับอันดับเครดิตของหุ้นกู้ด้อยสิทธิ

อันดับเครดิตภายในประเทศของ KTBST พิจารณาจากความแข็งแกร่งทางการเงินของตัวบริษัทเอง และยังสะท้อนถึงเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ (franchise) ในประเทศไทยของบริษัทที่มีขนาดเล็ก อีกทั้งบริษัทยังมีสถานะทางการเงินที่ด้อยกว่าเมื่อเทียบกับบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศที่ได้รับการจัดอันดับเครดิตโดยฟิทช์ ผู้บริหารและกลยุทธ์ของบริษัทเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญในการพิจารณาอันดับเครดิต เนื่องจากสามารถช่วยพลิกฟื้นผลการดำเนินของบริษัทจากผลการดำเนินงานขาดทุนต่อเนื่องในช่วงก่อนปี 2559 อย่างไรก็ตามฟิทช์ยังคงมองว่าแม้บริษัทจะมีผลการดำเนินงานที่ปรับตัวดีขึ้น แต่ในระยะปานกลางน่าจะยังคงมีความผันผวนมากกว่าเมื่อเทียบบริษัทหลักทรัพย์ในประเทศรายอื่น เนื่องจากเครือข่ายธุรกิจหลักทรัพย์ที่ยังด้อยกว่า ซึ่งสะท้อนได้จากโครงสร้างธุรกิจที่กระจายตัวน้อยกว่าและยังอยู่ระหว่างการขยายธุรกิจ อีกทั้งบริษัทยังมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ค่อนข้างสูง


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ